29 ธ.ค. 2553

ความโง่ของตัวเอง...

บางครั้งเราตระหนักให้ความสำคัญกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงจนลืมไปว่า ณ ปัจจุบันที่เราเป็นอยู่นี้เราให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากน้อยสักเพียงใด การที่เราให้ความสำคัญกับกระแสวัตถุนิยมจนหลงลืมไปว่าสิ่งนั้นเป็นเพียงกระแสนิยมที่เราเฝ้าแต้รอค่อยให้ความสำคัญกับมันจนเกินเลย จนบางครั้งทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของเราเปลี่ยนไปตามกระแสวัตถุนิยม..


การหลงลืมปัจจุบัน การคิดแต่ความผิดพลาดในอดีตจนเกินไป การหลงลืมความสำคัญของ ณ ปัจจุบันว่าวันนี้ ขณะนี้เรากำลังจะเผชิญอะไรในเวลานี้ ความเอาใจใส่ในสิ่งที่กำลังจะทำ ทำมันอย่างมีความหมาย ผมมีเรื่องเล่าดีๆ มีแง่คิดเกี่ยวกับกระแสวัตถุนิยมเรื่องหนึ่งครับ
    มีพระรูปหนึ่งชอบทำอะไรแปลกๆ วันหนึ่งพวกกรุงเทพฯ เอากฐินไปทอดที่วัดจัดงานกันใหญ่โตมีหนัง มีลิเก มีดนตรี ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน
ก่อนทอดกฐินผู้คนมารวมกันเต็มศาลาหลวงพ่อเรียกเด็กวัดมาบอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่งแล้วเอาเชือกมาด้วย จากนั้นหลวงพ่อจัดการเอาเนื้อผูกติดกับหลังหมา พอหลวงพ่อผูกเสร็จก็ปล่อยหมาให้วิ่งออกไป หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลังก็ไล่งับพอหัวโดดงับ ตัวก็ขยับหนีเพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง ยิ่งโดดงับเร็วก้อนเนื้อก็หนีเร็วโดดไม่หยุดเนื้อก็หนีไม่หลุดน่าสงสารหมามาก หมาโดดอยู่นานงับเท่าไหร่เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที ผู้คนบนศาลาพากันหัวเราะชอบใจหัวเราะเยาะหมาว่า "ทำไมมันถึงโง่ยังงี้ ไล่งับจะกินเนื้อที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทันตลอดชีวิต"
หลวงพ่อมองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้วก็แก้เชือกออกจากหลังหมา แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า "มนุษย์เรามีความรู้สึกว่าตัวเองพร่อง ตัวเองยังไม่เต็ม ต้องเติมตลอดเวลา เติมไม่หยุด เพื่อให้ตัวเองเต็ม เราอยากสวยอยากทันสมัย ก็ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุดทันสมัยที่สุดมาใส่ ดีใจได้เดือนเดียวก็มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้วสวยกว่าทันสมัยกว่า อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ซื้อเสร็จ 3 เดือน รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด 2 เดือนต่อมาก็มีรุ่นใหม่กว่าออกมาของเราก็ตกรุ่น ซื้อรถเบนซ์ทันสมัยที่สุด ราคาแพงมาก ขับได้ 6 เดือน มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้วทันสมัยกว่า ราคาแพงกว่าของเรากลายเป็นเชยเราต้องก้มหน้าก้มตาทำงานทั้งวัน ทั้งคืน หาเงินมาเพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ มือถือใหม่ คอมพิวเตอร์ใหม่ รถยนต์คันใหม่ เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสเพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น ปัจจุบันเรากำลังไล่งับความทันสมัยเหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมันทั้งที่รู้ว่า ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิตก็ไม่มีทางตามทัน" น่าสงสารไหมโยม คนเต็มศาลาเมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น ด่าว่าหมามันโง่ ตอนนี้เงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ไม่รู้ว่ากำลังสงสารหมาหรือกำลังทบทวนความโง่ของตัวเอง

มุมมองและการเห็นคุณค่าของทุกๆ สรรพสิ่ง การเห็นคุณค่าว่าตัวเรามีความพยายามสักเพียงไรที่จะทำสิ่งสิ่งนั้นที่กำลังทำอยู่ ในสิ่งเดียวกันคนเรามีมุมมองแตกต่างมุมมองต่างกันออกไปได้และผลของการมองก็ย่อมต่างกันออกไปด้วยครับ
   เคล็ดลับของการประสบผลสำเร็จในชีวิตก็คือ อย่าปล่อยชีวิตให้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ชีวิตให้มา แต่อยู่ที่เราจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ได้มาจากชีวิตต่างหาก...

19 ธ.ค. 2553

คำตอบจาก..การบ้านวันละ 5 ข้อ...

นักเรียนทุกคนที่ได้ทำการบ้าน 5 ข้อ ตอบคำถามด้วยความภาคภูมิใจ..
"เสียงสะท้อนเล็กๆ แห่งความสุขใจ จากเด็กนักเรียนบางส่วนที่ผมนำมาฝาก"


     ผมเริ่มให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำการบ้านวันละ 5 ข้อ ทุกคนทุกวันตั้งแต่เปิดทำการเรียนการสอนวันแรกของปีการศึกษา 2553 บางวันผมจะสุ่มถามเป็นรายบุคคลในวันที่ไม่ได้มีการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นนั้น ซึ่งนักเรียนทั้ง 86 คนเข้าใจการบ้านวันละ 5 ข้อเป็นอย่างดี ทุกคนสามารถบอกได้ว่าข้อ 1 - ข้อ 5 ถามว่าอะไรบ้าง?
ข้อ 1 วันนี้เธอช่วยพ่อแม่ทำงานอะไรบ้าง?
ข้อ 2 วันนี้เธอทำความดีกับคนอื่นอย่างไรบ้าง?
ข้อ 3 ที่บ้านของเธอมีข่าวท้องถิ่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
ข้อ 4 มีข่าวเปลี่ยนแปลงอะไรในประเทศเธอบ้าง?
ข้อ 5 ในโลกของเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?

  • นักเรียนบางคนทำการบ้านเสร็จให้ผู้ปกครองช่วยตรวจเช็คคำตอบและเซ็นต์กำกับทุกครั้งก็มีครับ เป็นความสานปฏิสัมพันธ์ของคนในสมาชิกครอบครัวครับ
  • นักเรียนบางคนไปทำความดีมาก็นำมาเล่าต่อให้ผมฟัง ให้เพื่อนๆ รับรู้ร่วมกัน วันนี้ช่วยคุณแม่ คุณพ่อทำงานหลายอย่าง เช่น ช่วยแม่เลี้ยงน้อง , กรอกน้ำช่วยพ่อแม่ , นวดให้คุณยาย , เล่านิทานให้น้องฟัง ฯลฯ ซึ่งอยู่ในการบ้านข้อที่ 1
  • นักเรียนบางคนไปนั่งดูข่าวภาคค่ำทุกวันเพื่อดูข่าวการเปลี่ยนแปลงของประเทศและการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งอยู่ในการบ้านข้อที่ 4 และข้อที่ 5
  • นักเรียนบางคนมาถึงโรงเรียนช่วยคุณครูถือของ ช่วยเพื่อนทำการบ้านให้เสร็จ , ช่วยเพื่อนทำความสะอาดห้องเรียน , ช่วยเพื่อนที่มือเจ็บล้างถาดอาหาร , ช่วยคุณลุงคนงานเก็บเศษกิ่งไม้ที่ตกล่นอยู่กลางถนนทางเดิน , บอกน้องๆ ป.1 - ป.3 ถอดรองเท้าก่อนขึ้นอาคาร ซึ่งอยู่ในการบ้านข้อที่ 2
  • นักเรียนบางคนตอบการบ้านข้อที่ 3 ว่าที่หมู่บ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะมากช่วงที่มีงานเทศกาลจะมีวัยรุ่นทะเลาะกันเป็นประจำ , วัยรุ่นแถวบ้านขับรถมอเตอร์ไซด์เร็วมากมีบางคนขับรถล้มบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้าโรงพยาบาลให้แม่ไปนอนเฝ้าด้วยหลายเดือน , วัยรุ่นบางคนทำร้ายพ่อแม่ของตัวเอง ขอเงินแม่ไปซื้อโทรศัพท์มือถือไม่ได้ทะเลาะกับแม่พ่อหนีออกจากบ้านเลย ฯลฯ 
ตัวอย่างชิ้นงานบางส่วนตอบการบ้านวันละ 5 ข้อ 
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ปีการศึกษา 2553

      หลังจากทุกคนส่งงานตอบคำถามเสร็จ ผมก็จะมีคำถามย้อนกลับในบ้างข้อกับนักเรียนเสมอ เพื่อที่จะให้เขาได้คิดใคร่ครวญในสิ่งที่เขาเห็นมา ให้เขาตระหนักในทุกๆ ปัญหาที่เขากำลังได้เผชิญอยู่

14 ธ.ค. 2553

การพัฒนาตนเอง โดยไม่ลดค่าผู้อื่น...

เรื่องดีๆ ที่ผมมีมาฝากครับ.. 
"แง่คิดระหว่างอาจารย์กำลังสอนศิษย์" 


     อาจารย์คนหนึ่งชวนลูกศิษย์เดินไปตามชายหาดช่วงหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นลงไปบนผืนทราย เป็นเส้นคู่ขนาน ยาว 5 ฟุต และ 3 ฟุตตามลำดับ อาจารย์กล่าวว่า "เธอลองทำให้เส้น 3 ฟุต ยาวกว่าเส้น 5 ฟุต ให้ดูหน่อยสิ" ลูกศิษย์หยุดคิดครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจลบรอยเส้นที่ยาว 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือเพียง 1 ฟุต จึงทำให้เส้น 3 ฟุตโดดเด่นขึ้นมา แล้วศิษย์ก็สบตาอาจารย์พลางขอความเห็นว่า "เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ"
     อาจารย์เขกหัวศิษย์เบาๆ แล้วบอกว่า "คนที่คิดจะยกตนเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้นไม่ใช่วิธีที่ดี ดังนั้นถ้าเลือกใช้วิธีนี้ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลวไม่พัฒนา ทางที่ดีควรเลือกวิธีที่จะยกตัวเองขึ้น โดยไม่ไปลดคนอื่นลง" แล้วอาจารย์ก็ขีดเส้น 2 เส้นให้เท่าเดิม คือ 3 ฟุต และ 5 ฟุต แล้วอาจารย์ก็สาธิตให้ดูด้วยการขีดเส้น 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต แล้วกล่าวว่า "จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเธอคือศัตรู แต่ให้คิดว่าเป็นครูของเธอ ที่เธอจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า" เขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม หากไร้คู่แข่ง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน..

"ไม่มีอัปลักษณ์ก็ไม่รู้จักสวยงาม นักสู้ที่ดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็ง"
     เพราะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอจะทำให้ชัยชนะของเขาไม่ยั่งยืนยง ดังนั้นเมื่อได้พบกับคู่แข่งที่แกร่งและฉลาดล้ำ ก็ยิ่งทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยการฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อน ถึงแม้จะทำให้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณ ไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรมกับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขาอย่างเสรีนั้นย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน การเลื่อนตัวเองขึ้นพร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจจะชนะ แต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม แต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ลดคนอื่นลง เธออาจเป็นผู้ชนะพร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย และหนึ่งในนั้นอาจเป็นคู่แข่งหรืออดีตศัตรูของเธอเองด้วย เป็นสังคมแห่งความสำเร็จบนพื้นฐานของมิตรภาพโดยแท้..

     ทุกคนต่างมีข้อดีในตัวเองแตกต่างกันออกไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คิดเสมอว่าเรายังทำได้ดีกว่านี้ได้อีกหรือไม่ แล้วสิ่งที่เราก็พัฒนาตนเองให้ดีที่สุด เมื่อผ่านมาถึงจุดหนึ่งแล้วเราย้อนกลับไปมองกับสิ่งที่เราทำไว้ เราจะรู้สึกประทับใจในสิ่งนั้นที่ผ่านมา อาจจะไม่มีใครรับรู้และสัมผัสความรู้สึกนั้น อย่างน้อย 1 คน ที่รู้ดีคือ "ตัวเรา" ให้ความสำคัญกับปัจจุบันสำคัญที่สุดนะครับ...

12 ธ.ค. 2553

กีฬาสี ' 53

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2553
กิจกรรมสานสัมพันธ์ครอบครัวลำปลายมาศพัฒนา ' 53


    ทางโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้จัดกิจกรรม "สานสัมพันธ์ครอบครัวลำปลายมาศพัฒนา" ซึ่งปีนี้เราจัดตรงกับวันหยุดราชการทั่วประเทศคือวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันดังกว่าวมีนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรลำปลายมาศพัฒนาทุกท่านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
     เราร่วมกันเล่นกีฬาสานสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างสนุกสนานเฮฮา ทุกคนมีรอยยิ้มแห่งความสุขกลับไป มีนักเรียนบางคนมาบอกกับผมว่า "เหนื่อยมากครับคุณครู แต่สนุกดี อยากให้มีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ทุกๆ วันเลยครับคุณครู"

ประมวลภาพกิจกรรมกีฬาสี ' 53
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์
สีแดง เดินขบวนนำทีมโดยครูณี
สีฟ้า เดินขบวนนำทีมโดยครูกิ๊บ
สีเหลือง เดินขบวนนำทีมโดยครูยิ้ม

สีเขียว เดินขบวนนำทีมโดยครูพร
ดามเมเยอร์ นำหน้าขบวนนำทีมโดยครูปอ
คุณครูแสนสวยสีสันกีฬาสี ครูน้อย & ครูต๋อย
เชียร์งานกีฬาสี สีฟ้านำทีมโดยครูแจ๋ว & ครูเต๋อ
แข่งเรือบกผู้ปกครองร่วมกับครู สนุกมากๆ สีแดงได้แชมป์ทั้งประเภทชาย - หญิง
งานแสดงช่วงกลางคืน เราได้รับรอยยิ้มแห่งความสุข จากคุณครูใหม่ทั้ง 8  ท่าน
 
      กิจกรรมดีๆ 1 ปี เราจัดงานกีฬาสี 1 ครั้ง เราทุกคนได้เกินความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะครอบครัวลำปลายมาศพัฒนา สานสัมพันธ์สิ่งดีๆ มีให้กันและกันเสมอไป..

1 ธ.ค. 2553

Mind Mapping สรุปคณิตศาสตร์ Quarter 2...

"สิ้นสุด Quarter 2"

     หลังจากที่นักเรียนวิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาทุกระดับชั้นครบ 10 สัปดาห์แล้ว นักเรียนทุกคนจะได้สรุปความเข้าใจเป็น Mind Mapping เช่นดัง Quarter 1 ที่ผ่านมา นักเรียนทุกคนมีพื้นฐานในการทำ Mind Mapping อยู่แล้ว โดยที่คุณครูได้สอนการทำชิ้นงานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจากระดับที่เรียนผ่านมาทุกๆ ปี
     ชิ้นงานสรุปความเข้าใจดังกล่าว นักเรียนจะได้รับข้อมูลทางคณิตศาสตร์ที่แตกต่างจาก Quarter 1 ที่ผ่านมา เพราะครูได้สอนเนื้อหาให้ผู้เรียนตามลำดับที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ แต่ที่เราสอนแตกต่างก็คือเพิ่มเนื้อที่เหมาะสมกับผู้เรียน(อาจจะเป็นเนื้อหาระดับที่สูงกว่าที่กำลังเรียนอยู่ ควบคู่ไปกับพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละระดับชั้น) เราไม่ปล่อยให้ผู้เรียนล้มเหลวแม้แต่คนเดียว เราให้ความสำคัญกับผู้เรียนทุกคนเท่าๆ กันครับ..
     ความเข้าใจของพี่ๆ ป.4 ใน Quarter 2 นี้จะเป็นการยกระดับพื้นฐานของความเข้าใจของผู้เรียนทุกคน เพราะว่าพี่ๆ ป.4 เลื่อนชั้นขึ้นมาจากชั้น ป.3 นักเรียนค่อนข้างจะทำงานได้ล่าช้าใน Quarter 1 ผมพยายามใช้เทคนิคหลายๆ อย่าง เพื่อที่จะให้นักเรียนทำให้ทันในเวลาที่ครูกำหนดทุกคน จนมาสำเร็จใน Quarter 2 ผู้เรียนเริ่มเรียนรู้และเข้าใจท่าทีของครูผู้สอนในการปรับตัวที่จะเรียนรู้ เด็กนักเรียนทุกคนทำงานเสร็จในเวลาที่กำหนดและมีเวลามานำเสนอวิธีคิด(show & share)ของนักเรียนแต่ละคน
     สำหรับพี่ๆ ป.5 และ ป.6 จะเป็นการสอนโดยใช้อีกเทคนิคหนึ่ง วิธีการที่ลงสู่ตัวผู้เรียนโดยลึกซึ่ง ให้ผู้เรียนเกิดปิติพร้อมที่จะได้รับการเรียนรู้ ถ่ายทอดวิชาให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ นักเรียนทำงานได้เรียบร้อยมากขึ้น มีวิธีคิดที่หลากหลายมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นของผู้เรียนตามระดับชั้น

     ผมใชัเทคนิคการเพิ่มคะแนนผู้เรียนที่อาสาช่วยอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ(+2) นักเรียนจาก ป.4 ถึง ป.6 ทุกคนจะเข้าใจความหมายของคะแนน(+2) นี้ คือ "คะแนนเพื่อนช่วยเพื่อน"...

ตัวอย่างชิ้นงาน Mind Mapping สรุปคณิตศาสตร์ Quarter 2
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ประจำปีการศึกษา 2553
 
  ชิ้นงานตัวแทนพี่ๆ ป.4    
    นักเรียนชั้น ป.4 ทำชิ้นงานนี้ด้วยความตั้งใจทุกคน หลังจากที่สรุปเมื่อสิ้นสุด Quarter 1 ที่ผ่านมา นักเรียนส่วนใหญ่ครูประจำชั้นให้นักเรียนใช้ปากกาได้แล้ว นักเรียนทำงานได้ละเอียดและเรียบร้อย แสดงความเข้าใจตามระดับของช่วงวัยได้ดีขึ้นทุกๆ คนครับ..

 
  ชิ้นงานตัวแทนพี่ๆ ป.5
     นักเรียนชั้น ป.5 ทุกคน จะมีความสามารถในการลงสี เติมแต่งในชิ้นงานได้ดีทุกคน การเขียนงานสรุปความเข้าใจใน Quarter 2 นักเรียนตั้งใจทำและงานออกมาได้ดีกันทุกคน แสดงถึงสรุปความเข้าใจทางคณิตศาสตร์ระดับชั้น ป.5 ได้น่าประทับใจอย่างยิ่งครับ..

 

ชิ้นงานตัวแทนพี่ๆ ป.6
    พี่ๆ ป.6 ตั้งใจทำชิ้นงานทุกชิ้นที่คุรครูมอบหมายให้ทำ เพราะปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่พี่ๆ ป.6 จะสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ ชิ้นงานดังกล่าวนักเรียนทุกคนขอนำกลับไปทำต่อทีบ้านเพื่อที่จะนำไปทำต่อและตกแต่งให้มีสีสันสวยงามที่สุด บางคนให้คุณแม่ คุณพ่อ ผู้ปกครองช่วยตรวจเช็คความเรียบร้อยของชิ้นงาน พร้อมรับลายเซ็นผู้ปกครองมาส่งคุณครูอีกด้วยครับ...

25 พ.ย. 2553

เกี่ยวข้าว ' 53

บ่ายโมงของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553
ชาวลำปลายมาศพัฒนา ร่วมแรงลงแขกเกี่ยวข้าวร่วมกัน

     ทุกๆ ปีนักเรียน ผู้ปกครองและบุคลากรที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาแห่งนี้เราจะมีกิจกรรมดำนาและเกี่วข้าวร่วมกันทุกๆ ปีตามวิถีชนบทอีสานบ้านเฮา ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับทุกๆ กิจกรรมของโรงเรียนเป็นอย่างดียิ่งและทุกๆ ครั้งผู้ปกครองหลายๆ ท่านก็นำญาติมิตรมาร่วมกิจกรรม ซึ่งได้เกิดการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน..

 
ขอบคุณคลิป VDO จากครูอ้อน

ประมวลภาพเกี่ยวข้าว ประจำปีการศึกษา 2553
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์

ร่วมเรงแข็งขัน สมัครสมาน สามัคคี
พี่ๆ ป.6 ช่วยเกี่ยวข้าวปีที่ 8 ของลำปลายมาศพัฒนา
เพื่อนช่วยเพื่อน

ผู้ปกครองร่วมด้วย ช่วยเหลือกิจกรรมของโรงเรียน

นักเรียน สุขใจ คุณพ่อ คุณแม่ มาช่วยกัน

ผู้ปกครองใจดี มีไอติมมาฝากเด็กๆ ทุกๆ กิจกรรม
พี่ๆ อาสานำพาน้ำมาให้ทุกคนที่เกี่ยวข้าวดื่มทั่วกัน

อีกฝั่งของท้องทุ่งนา ก็มีผู้ปกครองใจดีมีไอติมมาฝากอีกเช่นเคย
คุณครูอ้นและอาจารย์นฤมล ก็มาร่วมด้วยช่วยพวกเราเกี่ยวข้าว

แยกย้ายกลับห้องเรียนเตรียมแข่งขันกีฬาสีช่วงเย็นก่อนกลับบ้าน..