25 มิ.ย. 2554

ชีวิต คือ อะไร?

   ผมเปิดอ่านสมุดบันทึกความสุขของพี่จ๋อม นักเรียนชั้น ป.6/2553 โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ซึ่งเป็นบันทึกสัปดาห์สุดท้ายของพี่จ๋อมที่จะได้เขียนในปีการศึกษานี้ให้ผมอ่าน(ตรวจ) ผมอ่านแล้วดูแล้วงดงามมากครับ เลยนำมาฝากแบ่งปันให้รับรู้ความตั้งใจของลูกศิษย์ครับ..


ณ ป่าใหญ่
มีนกตัวหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า 'ชีวิตคืออะไรกันแน่'
ดอกกุหลาบกำลังผลิบาน พร้อมพูดว่า 'ชีวิตคือกระบวนการแห่งการเปลี่ยนแปลง'
ผีเสื้อกำลังดูดน้ำหวาน พูดว่า 'ชีวิตคือความปรีดา ปราโมทย์กับแสงตะวันที่ส่องแสงสว่าง'
มดกำลังขนเศษฟางและพูดว่า 'ชีวิตคือความลำบากตรากตรำและแรงเหนื่อยกาย'
ฟ้าครึ่มซึ่งฝนกำลังจะตกลงมาสายฝนบอกว่า 'ชีวิตประกอบด้วยหยาดน้ำตามันไม่มีอะไร นอกจากหยาดน้ำตา'
นกอินทรีย์ บอกว่า 'มันคือความพยายามที่จะบินขึ้นสูงไปเรื่อยๆ'

ยามราตรีได้ปกคลุม
ชายคนหนึ่งดื่มสุรามึนเมา แล้วพูดว่า 'ชีวิตคือการหาควาสุขให้ตัวเองและแล้วความผิดหวัง'

ในที่สุดก็ถึงเวลาอุสางมีเสียงแว่วขึ้นมาว่า 'ชีวิตคือการเริ่มต้นของการเป็นนิรันทร์ ซึ่งก็เช่นเดียวกับตัวเรา ยามอรุณรุ่งนี้ ผู้เปิดฉากวันใหม่ทุกวัน'

ผู้เขียนบันทึกความสุข
เด็กหญิงณัชฐนิชา เพียขันทา
13/03/54

21 มิ.ย. 2554

นักวิ่งผู้ยิ่งใหญ่ ที่ทำลายกรอบความเชื่อของมนุษย์ที่คิดว่า 'ฉันทำไม่ได้'...

 งานเขียนที่รวบรวมเล่มโดย 'เบญญาวัธน์' 
แค่เปลี่ยนมุมมองวิธีคิด ชีวิตพบแต่สิ่งดีๆ 
เขียนโดยนักเขียน 'พระไพศาล วิสาโล' และ 'รินใจ'
  หนังสือรวมเล่มของ 2 นักเขียนที่ผมประทับใจในงานเขียนของทั้งสองท่านมาก ผมชอบอ่านงานในรูปแบบนี้มาก เพราะเป็นงานเขียนที่ใช้ภาษาสลวย ใช้ภาษาง่าย อ่านแล้วมีกำลังใจ เสริมพลังใจเสมอมาโดยตลอดครับ..
บางครั้งในความผิดหวัง/ความท้อ มันยังมีความผิดหวังและความท้อซ่อนอยู่ข้างในอีกมากมาย 
บางครั้งกำลังใจที่เราต้องการ ที่เราไม่อาจจะปรารถนาจากใครเลยสักคนในห้วงขณะเวลาหนึ่ง เพื่อนพึ่งพายามที่ใจเราทดท้อแบบสุดๆ เรายังมีจุดเสริมกำลังใจเล็กๆ ที่มาเติมเต็มหัวใจให้เสริมต่อชีวิตไปอย่างมิไร้ซึ่งความหมายคือ 'หนังสือ'..

โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ นักวิ่งชาวอังกฤษ..
การวิ่งครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1954

     เขาเป็นคนแรกในโลกที่วิ่งระยะทางหนึ่งไมล์ ด้วยเวลา 3.59 นาที ความสำเร็จของเขามีไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ เดี๋ยวนี้มีนักวิ่งมากมายที่ใช้เวลาน้อยกว่าเขาเสียอีก แม้กระทั่งชัยชนะของเขาเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ก็ยังควรค่าแก่การจารึกในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เพราะเขาได้ทำลาย 'กำแพง' ที่ขวางกั้นมนุษย์มาช้านาน
 เป็นเวลาหลายพันปีที่ผู้คนเพียรพยายามวิ่ง 1 ไมล์ โดยใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาที แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ จนเกิดเป็นความเชื่อฝังใจว่ามนุษย์เรามีขีดจำกัดเพียงแค่นี้ ไม่มีทางที่เราจะข้ามพ้นกำแพงดังกล่าวได้ แต่แบนนิสเตอร์ได้พิสูจน์ว่า มนุษย์เรามีศักยภาพมากกว่านั้นและกำแพงดังกล่าวที่แท้จริงเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง หลังจากกำแพงดังกล่าวถูกแบนนิสเตอร์ทำลายลงไป นักกีฬาคนแล้วคนเล่าก็ทยอยทำลายสถิติการวิ่ง จนดูราวกับว่าศักยภาพของมนุษย์เราจะไม่มีขีดจำกัด ขอเพียงแต่ไม่สยบยอมต่อกำแพงในใจเท่านั้น
  ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้นไม่ได้อยู่ที่การเนรมิตประดิษฐกรรมอันน่าอัศจรรย์หรือการกู้ชาติสร้างประเทศเสมอไป การบันดาลใจให้ผู้คนก้าวข้ามพ้นขีดจำกัดของตนเอง ก็เป็นคุณูปการสำคัญต่อโลกเช่นกัน
 นี่แหละคือผลงานอันทรงคุณค่าของ แบนนิสเตอร์ ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ 

ปิดท้ายในตอน 'ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่' ตอนสุดท้ายแบนนิสเตอร์กล่าวไว้งดงามมากครับ..
มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพมากมายเหลือประมาณ
แถมยังพัฒนาให้เพิ่มพูนขึ้นได้
แต่ศักยภาพดังกล่าวไม่ค่อยถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่
เพียงเพราะความเชื่อว่า 'ฉันทำไม่ได้'

18 มิ.ย. 2554

ความสุขที่แท้จริงของ..อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

    ไอน์สไตน์เป็นคนไม่หลงใหลไปกับคำสรรเสริญเยินยอ ชื่อเสียงเกียรติยศ ไม่สนใจทัรพย์สินเงินทอง ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรที่ทรัพย์สินในเยอรมนีที่ถูกพวกนาซียึดไปจนหมด
    วันที่เขาย้ายไปดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในสหรัฐฯ จำนวนเงินเดือนที่เขาเรียกร้องในแบบฟอร์มน้อยกว่าเงินเดือนของนักการภารโรงที่นั่นเสียอีก..

เขาเคยเขียนไว้ว่า..
'ที่ผมมีความสุขอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะผมไม่เคยอยากได้อะไร ไม่สนใจเงินทอง ตำแหน่ง คำยกย่อ เหรียญประดับหรืออำนาจเกียรติยศใดๆ สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข คือ การได้ทำงาน การสีไวโอลิน และการเล่นเรือใบ'

11 มิ.ย. 2554

งานเป็นดอกไม้ของชีวิต 3

จาก 'โรงเรียนนอกกะลา' สู่ 'หมู่บ้านพลัม'
7-9 June 2011
Leaning and practicing of mindfulness along Thich Nhat Hanh
Place : Thai Plum Village, Pak Chong, Nakhon Ratchasima
Retreat - In Gratitude
Plum Village
    เรียนรู้และปฏิบัติร่วมกับพุทธบริษัทสี่ 
เพื่อพัฒนาจิต ในการมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน กับลมหายใจเข้าออก

ลมหายใจ(Breathing in, Breathing out)
In, out, deep, slow.
Calm, ease, smile, release.
Present moment, Wonderful moment..

2 มิ.ย. 2554

วัฒนธรรมการแลบลิ้นจาก..อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

   อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์(Albert Einstein) เป็นผู้ค้นพบความลับของแสงและเวลาผ่านทฤษฎีโฟโตอิเล็กทริกและทฤษฎี สัมพัทธภาพ ทำให้โลกปฏิวัติเข้าสู่ลูกที่ 3 คือยุคแห่งเทคโนโลยีที่ใช้แสง ดิจิทัล การสื่อสาร และคอมพิวเตอร์..

    ในช่วงที่ไอน์สไตน์โด่งดังที่สุดขณะนั้นมีหลายครอบครัวนำรูปเขาขึ้นติดบน ผนังบ้าน รัฐบาลอิสราเอลนำรูปเขาพิมพ์ลงบนธนบัตร บางคนนำรูปเขามาใส่ในล็อกเกตคล้องคอ จนไอน์สไตน์รู้สึกไม่สบายใจและระบายออกมาเป็นบทกลอนว่า "เป็นเรื่องดีที่มีแต่คนรัก มีคนทักเวลาไปที่ไหน แต่บางครั้งก็รู้สึกสนเท่ห์ใจ ว่านี่ฉันหรือใครๆ บ้าเสียเอง"

   ในยุคนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็เป็นข่าวไปเสียหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเบื่อหน่ายต่อการถูกนักข่าวตามถ่ายรูป เขาจึงแลบลิ้นให้กับช่างภาพปรากฏว่าการแลบลิ้นกลายเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมอเมริกันยุคหนึ่งเลยทีเดียว
ใครที่รู้สึกเบื่อ สับสน หรือต้องการให้ดูเป็นคนขี้เล่นสบายๆ จะต้องแลบลิ้น...
 .