19 ต.ค. 2552

ฟ้ายามค่ำคืน


ฟ้ายามค่ำคืน


ยามเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มลาลับอับแสงจากท้องฟ้า ความสว่างก็จะค่อยๆ กลืนหายกลับกลายเป็นสีดำ แต่ก็ไม่เชิงนักหรอกนะ ทั่วท้องฟ้าไม่ได้มืดดำเสียที่เดียว เพราะได้แอบซ่อนแสงระยิบระยับของเจ้าดาวน้อย เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ประดับประดาให้เกิดความสวยงาม ซึ่งแสงของเหล่าดวงดาวนี้ช่วยแต้มแต่งให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนชวนมอง คล้ายๆ ผ้าใบผืนใหญ่ที่จิตรกรเอกชื่อว่าธรรมชาติ ได้บรรจงแต่งแต้มสีสันไว้อย่างลงตัวยิ่งนัก

บางค่ำ บางคืน แสงดาวที่ระยิบระยับ กลับมองไม่เห็น หรือเห็นเพียงแสงอันริบหรี่ ดูบางตายามมอง เปล่าเลย....เหล่าดวงดาวไม่ได้แอบหนีหายไปไหนหรอก แต่เป็นเพราะว่า ค่ำคืนนั้นมีแสงสีเหลืองนวลจากเจ้าวงกลมดวงใหญ่ที่ชื่อว่าพระจันทร์ ได้ทอแสงอาบไล้ปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนกลืนแสงของเหล่าดาวดวงน้อยจนริบหรี่ลงหรือหมดสิ้นไป

ท้องฟ้ายามค่ำคืน นับว่าเป็นมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติที่ชวนหลงใหล ใครที่กลัวความมืดของฟ้ายามค่ำคืน คงสูญเสียโอกาสที่จะได้พบความงดงามของราตรีกาล


ไม่ว่าค่ำคืนนี้จะประดับด้วยแสงดาวหรือแสงจันทร์ มนต์เสน่ห์ของฟ้ายามค่ำคืนก็ยังคงมีให้ค้นหาอยู่ร่ำไป เพียงเราเปิดโอกาสให้ตนเอง ให้เวลากับตนเองสักนิด เงยหน้าจากภาระงานหรือสิ่งอื่นใด แล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำสักนิด

ความงดงามของราตรีกาล กำลังรอทักทายและท้าทายคุณให้ค้นหาความหมายของบางสิ่งบางอย่าง

มีความสุขกับความงดงามของฟ้ายามค่ำคืนนะคะ.......บางที่อาจจะค้นพบสิ่งดีๆ จากราตรีกาล

5 ความคิดเห็น:

  1. ความงามหรือแสงสว่างนอกจากจะมาจากดาวดวงน้อย และพระจันทร์ดวงโตแล้ว ่แสงสว่างมันยังออกมาจากใจของคนเราได้ด้วย ขอแค่เราเปิดมันแล้วเราจะเห็นว่าโลกใบนี้กว่างใหญ่กว่าที่เเห็นและคิดไว้เยอะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ20 ตุลาคม, 2552 16:13

    โลกกว้างใหญ่ ใจกว้างกว่า

    อยู่ที่จะเรียนรู้ อยู่ที่จะยอมรับ

    ตอบลบ
  3. เห็นความงามของธรรมชาติ และได้สัมผัสกับชีวิตที่งดงามกับงานเขียนค่ะ

    ตอบลบ
  4. บางอย่างไม่ได้เห้นด้วยตา แต่เห็นด้วยใจต่างหาก

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณทุกความคิดเห็น

    จะกายหรือใจ ใช้สัมผัส ก็ล้วนทำให้เราได้เห็น ได้รับรู้ และได้เรียนรู้
    ขอเพียงเราเปิดมันเท่านั้น

    ตอบลบ