13 ต.ค. 2552

มะม่วงน้อย1

ฝนตกแล้วไอ้แดง..เก็บผ้าช่วยแม่เร็วๆๆๆ
เออ..ฝนช่วงนี้มันอยากตกตอนไหนมันก็ตกน้อ....ไม่มีเค้าเลย
เมื่อกี้แดดยังเปรี้ยงๆ อยู่เลย....เสียงแม่บ่นพึมพำกับตัวเอง
แล้วก็บอกให้แดงเก็บผ้าเข้าไปตากไว้ข้างฝาบ้านที่พ่อใช้สายไฟเก่าๆ ขึงเป็นราวพาดผ้าชั่วคราว
พ่อแกไปไหนเสียล่ะไอ้แดง...ตากผ้าเส็จแกอย่าลืมวิ่งไปบอกพ่อมาเอาสังกะสีออกไปพาดรินน้ำฝนใส่โอ่งนะ..
ฝนตกมาหลายวันแล้วสังกะสีคงสะอาดพอที่จะรองน้ำฝนใส่โอ่งไว้ดื่มได้แล้วล่ะ
แดงนั่งดูพ่อเอาสังกะสี 3 แผ่นพาดบนไม้ไผ่ที่พ่อทำไขว้กันไว้เพื่อเป็นที่รองน้ำฝนใส่ในโอ่งสีแดงที่หลวงแจกให้ฟรีหลายปีที่แล้วตามโครงการน้ำพระทัยจากในหลวงฯ
ผ่านไปนานจนพ่อทำเสร็จเรียบร้อย พ่อก็ใช้จอบขุดเเป็นร่อง รอบ ๆ บ้านที่ฝนไหลตกจากสังกะสีโดยไม่มีที่รองน้ำฝน เพื่อให้น้ำมัันไหลไปลงสวนมอญ(สอนหม่อนไหม)ที่แม่ปลูกไว้

ผ้าขาวม้าที่พ่อโพกหัวกันฝน และกางเกงสีเทาหม่นๆ ของพ่อก็เปียกเช่นกัน...พ่อจึงใช้ให้แดงไปหยิบผ้าขาวม้า ขันตักน้ำและคุถังสีดำมาให้ แล้วพ่อก็รองน้ำฝนตรงรูระหว่างแผ่นสังกะสีที่เชื่อมต่อกันอาบและซักผ้าที่เปียกด้วย

แดงนั่งดูพ่อและเล่นกับไอ้ด่างจนสายฝนเริ่มหยุดตก..
ก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนถามพ่อมาว่า..
ฝนหยุดแล้วพ่อไม่ไปดูท้ายนาหน่อยรึ..
พ่อจึงชวนแดง....และ
หยิบข่องมาคาดเอวไว้ ในมือถือมีด แบกจอบ และแดงก็ช่วยพ่อถือเสียมด้ามใหญ่เดินลัดหลังวัดและหนองน้ำของหมู่บ้านไปดูนา
ไอ้ด่างวิ่งตามมาติดๆ
ก่อนถึงนา ผ่านวัดหลังวัดมีต้นมะม่วงน้อยหลายต้นแดงสังเกตเห็นบนพื้นดินเต็มไปด้วยมะม่วงน้อยที่หล่อนหลังจากฝนตก

แดงวิ่งไปเก็บมะม่วงได้เต็มสองมือก็มองหาที่ใส่ พ่อจึงยืื่นผ้าขาวม้าผูกเอวให้แดงเก็บมะม่วงใส่แล้ว
พ่อก็ผูกเป็นห่อให้แดงแบกพาดใส่ข้างหลัง แล้วก็ช่วยแดงถือเสียมด้ามใหญ่เิดินลัดผ่านหนองน้ำไปทุ่งนา

ถึงปลายนาอากาศหลังฝนตกสดชื่นปลอดโปร่ง ไม่ร้อน พ่อหยุดมองดู ตากล้า (ต้นกล้าข้าวที่หว่านไว้) เห็นรอยควายหลายรอยที่ลงมาเหยียบตากล้าของพ่อ พ่อจึงไปตัดและลากต้นเล็บแมวข้างทางมากันทางควายลงมากินตากล้า..

แดงก็ดึงลูกเล็บแมวสีดำที่กำลังสุกจากกิิ่่่งที่พ่อตัดมาใส่กระเป่ากางเกงไว้จนเต็ม..ในใจคิดว่าจะเอาไปฝากน้องน้อยที่รออยู่บ้าน

เสียงไอ้ด่างเฮ่า โฮ่งๆ
โฮ่งๆ จากข้างทางใกล้ๆ พุ่มเล็บแมว
พ่อรีบเดินไปตามเสียงเห็นไอ้ด่างกำลังวิ่งไล่แย้ตัวใหญ่ ข้ามคันแทนาไป..
แดงจึงวิ่งตามพ่อไปดักข้่างหน้า..จนช่วยกันจับแย้ตัวใหญ่ได้แล้วพ่อก็เอาหย่อนลงไปในข่องที่ผูกเอวพ่อไว้ปิดฝาข่องให้แน่น ใส่หญ้าแห้งด้วย 1 กำมือ

พ่อกลับมาขุดรอบตากล้าเป็นร่องเพื่อขังน้ำให้อยู่ในตากล้าให้ตนกล้าได้ไตไว ไว จนเสร็จ

แล้วแดงพ่อและไอ้ด่า่งก็ขึ้นไปดูหัวนาที่เป็นเหล่าปอ แล้วก็ช่วยกันหาแย้ได้อีก 3-4 ตัว จากฝีมือไอ้ด่าง 2 ตัว
พ่อบอกว่าหลังจากฝนหยุด แย้มันไม่มีที่อยู่น้ำท่วมรู มันจะมาอาศัยอยู่ที่ดอน ตามพุ่มไม้
ทำให้เราไม่ต้องเสียแรงไปขุด

กลับถึงบ้านพ่อส่งข่องให้แม่
และแดงส่งห่อมะม่วงน้อยให้แม่เช่นกัน

แม่ลอกหนังแย้ตัวใหญ่ ก่อไฟทิ้งไว้ให้เป็นถ่าน ส่วนพ่อก็ไปตัดกิ่งไม้ไผ่มาทำหีบให้แม่ปิ้งแย้
แล้วแม่ก็เลือกมะม่วงน้อยที่ห่ามและใกล้สุก ตัดขั้วและแช่น้ำไว้ในชามเล็ก

เย็นวันนั้นแดงได้กินข้าวกับตำแย้ใส่มะม่วงน้อย..กับยอดกระถินข้างรั้ว สุดยอดของความอร่อย
ตามด้วยมะม่วงน้อยบีบเม็ดออกแล้วยัดข้าวเหนียวร้อน ๆ ลงไป
รสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยมาก


8 ความคิดเห็น:

  1. ดีค่ะ บรรยายได้เห็นภาพมากเลย ตำแย้ใส่่มะม่วงคงอร่อยน่าดูเลย......อยากกินจังเลย

    ตอบลบ
  2. ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่เคยอยู่

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณครับพี่ยิ้ม ผมรู้จักแย้ครับ แต่ทุกวันนี้เหลือน้อยมากๆ ครับ

    ตอบลบ
  4. เขียนได้ดีมากค่ะ เห็นภาพเลย

    ตอบลบ
  5. โรงเรียนนี้เขาฝึกให้ครูเป็นนักเขียนด้วยหรือค่ะ
    ทำไมแต่ละคนเขียนได้ดีมากๆ
    โดยเฉพาะพี่ยิ้ม.....
    ทำได้ไงง่ะ นั่งเขียนไม่กี่ชั่วโมง แต่ผลงานออกมาดีสุดๆ (ยังกะมือโปร)
    โคตรปลื้มเลย..... พี่ยิ้มเก่งสุดยอด

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณมากคะน้องสาวที่น่ารัก....
    ...พี่คนสวย (รึเปล่าน้า)

    ตอบลบ
  7. เป็นเรื่องราวที่สวยงาม น่าชมมากครับ

    ตอบลบ
  8. รู้สึกเหมือนกันมั้ยค่ะว่า..เป็นอะไรที่คุ้นเคย..

    เห็นภาพเลยค่ะ..แต่งเก่งมากกกก(",)

    ตอบลบ