ตอน “พรุ่งนี้ไม่สายเช้าวันหนึ่งที่บ้านหลังใหญ่แถบชานเมือง “......กริ๊ง...กริ๊ง..
กริ๊ง....” เด็กสาวหน้าตาน่ารักที่กำลังอยู่ในวัยแรกแย้มสะดุ้งตื่นขึ้น
“จะปลุกอะไรกันนักหนา” เธอบ่นพึมพำ “แต่เราเป็นคนตั้งนาฬิกาเองนี่” “อุ๊ย
!แย่แล้ว .......วันนี้วันสอบ แย่แน่ๆกระเพรา”
กระเพราเป็นเด็กสาววัย 16 ปี
ผู้ขยันหมั่นเพียรในการเรียนเป็นอย่างยิ่ง เธอมีความฝันอยากเป็นแพทย์
เธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรัก ความอบอุ่น และความคาดหวังของคนในครอบครัว
พ่อและแม่ของเธอมีอาชีพรับราชการและมีฐานะปานกลาง แต่กระเพราก็ไม่เคยลำบาก
โดยเฉพาะเรื่องการเรียน พ่อกับแม่ของเธอสนับสนุนเต็มที่
เธอจึงใช้เวลาอยู่กับสถาบันกวดวิชามากกว่าอยู่บ้านเสียอีก
“กระเพราขา.....วันนี้ทำไมตื่นสายจังเลยลูก” แม่ของเธอถามด้วยความแปลกใจ
“แม่จ๋า.....กระเพรานอนดึกค่ะ
เมื่อคืนกระเพราฝันเป็นตัวเลขทั้งนั้นเลย”
กระเพราตอบประสาซื่อ “โถ โถ
แม่คุณของแม่.....เนี่ยอดทนอีกนิดนะลูก....อีกนิดเดียวเท่านั้น...ทีนี้กระเพราก็จะสบายแล้วลูก”
กระเพรามีพี่น้องทั้งหมดสองคน โดยที่กระเพราเป็นลูกสาวคนโต เป็นหลานสาวคนแรก
และเป็นเด็กที่ฉายแววเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก.......แต่กระเพราไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท
ส่วนน้องชายของกระเพรา อายุห่างจากกระเพรา 6 ปี เด็กน้อยคนนี้ชื่อ “ตั้งโอ๋”ชื่อของ "กระเพรา" กับ "ตั้งโอ๋" มีที่มาจากผักใบเขียวเหมือนกัน
เพราะแม่ชอบกินผัก นอกเหนือจากนั้นกระเพรากับตั้งโอ๋แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตั้งโอ๋เป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้ามาตั้งแต่เด็กๆ
พ่อกับแม่ต้องพาไปพบแพทย์อยู่ทุกเดือน และบางครั้งถ้าพ่อแม่ไม่ว่าง
ต้องจ้างครูพี่เลี้ยงมาดูแล
ปัญหาของน้องชายยิ่งทำให้กระเพรากดดันเพราะความคาดหวังทั้งหมดของพ่อแม่ขึ้นอยู่กับกระเพราเท่านั้น
ตอนที่กระเพราเป็นเด็ก กระเพรารู้สึกไม่ชอบตั้งโอ๋เอามากๆ “
แม่จ๋า.....วันนี้แม่ไม่ต้องพาตั้งโอ๋ไปส่งกระเพราได้ไหมคะ กระเพราเบื่อ
ตั้งโอ๋ชอบโวยวาย แล้วเพื่อนก็ชอบล้อกระเพราว่ามีน้องปัญญาอ่อน”
กระเพราพูดด้วยความอัดอั้นตันใจกับวัยเพียง 10 ขวบ
แต่คำพูดของกระเพราก็ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับถอนหายใจ
กระเพราขา.....ตั้งโอ๋เป็นน้องชายคนเดียวของหนู ตั้งโอ๋น่าสงสารนะลูก
เขาเป็นเด็กไม่สมบูรณ์
ถ้าแม้แต่พี่สาวของเขายังรังเกียจแล้วคนอื่นล่ะลูก....เขาจะคิดยังไง”
แม่พูดด้วยความสงสารลูกชายกระเพราได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกสงสารน้องชายขึ้นมาจับใจ
พร้อมกับตำหนิตัวเองที่มีความคิดแบบนั้นเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ....
ตั้งแต่นั้นมากระเพราเฝ้ารักและดูแลน้องชาย
เปรียบเสมือนเป็นแม่คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ กระเพราช่วยแม่สอนตั้งโอ๋
จนตั้งโอ๋สามารถดูแลตัวเองได้ ด้วยความพิเศษของตั้งโอ๋
ทำให้กระเพราและทุกคนในครอบครัวมีความสุขมาก....ตั้งโอ๋ชอบเล่นลูกบอล กับเล่นน้ำ ถ้าตั้งโอ๋หายไปในห้องน้ำนานๆ
แทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังทำงานศิลปะโดยใช้สบู่ทาผนังห้องน้ำอยู่
นอกจากนี้แล้วตั้งโอ๋ชอบเล่นกับสุนัข และมีความเข้าใจผิดๆในบางสิ่งบางอย่าง
โดยที่เขาไม่รู้ตัว.....
มีอยู่วันหนึ่งตั้งโอ๋รู้สึกร้อนมาก และครุ่นคิดว่า
จะทำยังไงให้เจ้า “หมูตั้ง”
สุนัขตัวน้อยพันธุ์ชิสุที่พี่สาวจงใจตั้งชื่อให้คล้องกับตั้งโอ๋
หายร้อนไปด้วย
ใครจะคิดล่ะว่าตั้งโอ๋จะจับเจ้าหมูตั้งแช่เย็น
ก็มีแต่ตั้งโอ๋เท่านั้นล่ะที่คิดได้....................
ช่วงนี้กระเพราแทบไม่มีเวลาให้กับหมูตั้งและตั้งโอ๋เลย
เพราะกระเพราเตรียมตัวเข้าสอบแพทย์ สำหรับเด็กสอบเทียบมีสิทธิเฉพาะสอบตรงเท่านั้น
กระเพราวิ่งรอกเรียนพิเศษทั้งขอนแก่นและกรุงเทพฯ
ก่อนหน้านี้กระเพราทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจมาครั้งหนึ่งด้วยการสอบเข้าโรงเรียนสาธิตชื่อดังในละแวกบ้านได้
โดยที่พ่อกับแม่ไม่ต้องจ่ายแป๊ะเจี๊ยตามแผนสำรองที่แม่วางไว้กันเหนียว…..และเรื่องนี้ทำให้แม่ได้คุยโม้กับเพื่อนที่ทำงานได้หลายวัน
แต่แม่ไม่รู้หรอกว่ากระเพราเครียดมากกับการสอบครั้งสำคัญที่กำลังจะมาถึง
“ทำไม ต้องมีการสอบ ทำไมเราต้องอยากเป็นแพทย์
แล้วเราอยากเป็นจริงๆเหรอกระเพรา” กระเพราเฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
“.....สับสน....เครียด... หัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ....แล้วฉันจะทำได้ไหม โอ๊ย!
ปวดหัว”ที่มุมหนึ่งของห้องเรียนในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง
มีเด็กหลังห้องคนหนึ่งนั่ง Sketch ภาพสวยๆของหญิงสาวหน้าตาน่ารัก
เขาค่อยๆไล่ลายเส้นด้วยดินสออย่างบรรจง
พร้อมๆกับรอยยิ้มที่ปริ่มอยู่บนใบหน้าของเขา
เก้งเป็นเด็กหนุ่ม อายุ 16 ปี
แม่ของเก้งมีอาชีพค้าขาย
ส่วนพ่อของเก้งหย่าขาดกับแม่ไปแต่งงานใหม่
แม่ของเก้งเป็นผู้มีอันจะกินในแวดวงของชาวตลาด เก้งเป็นคนคล่องแคล่ว
ขยันขันแข็ง และมีความชอบทางด้านศิลปะและดนตรี เก้งเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน
พี่สาวของเก้งแต่งงานและมีครอบครัวกับลูกชายเถ้าแก่เจ้าของกิจการก่อสร้างในตัวจังหวัด
ด้วยบุคลิกลักษณะที่ร่าเริง และอัธยาศัยดี
ทำให้เก่งเป็นที่รักของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในแถบตลาดเป็นอย่างมาก
แม่ของเก่งอยากให้เก้งเรียนการตลาด เพื่อกลับมาช่วยดูแลกิจการของครอบครัว
แต่เก้งอยากเรียนจิตรกรรม
ซึ่งเก้งก็ไม่รู้ว่าจะได้เลือกในสิ่งที่อยากเรียนหรือเปล่า ส่วนในเรื่องความรักเก้งกลับชอบในสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับตัวเอง
เก้งชอบกระเพราเด็กสาวผู้คงแก่เรียน
“กระเพรา
เธอจะรู้ไหมเนี่ย....ว่าเราแอบปลื้ม ”
เก้งนึกในใจพร้อมกับฝันหวาน ทันใดนั้นก็มีมือหนักๆฟาดเข้าให้กลางศีรษะดัง ป๊าป
! “ไอ้เก้ง ทำไรวะ นั่งเหม่ออยู่ได้ ” สันติเพื่อนสนิทของเก้งถามด้วยความอยากรู้
“ทำไรก็เรื่องของกู มึงจะมายุ่งทำไมไอ้สันติ ” เก้งตอบแก้เขิน “แหมมึง
นึกว่ากูจะไม่รู้เหรอว่ามึงแอบชอบยัย Robot ไส้แห้ง” สันติตอบด้วยความรู้ทัน
“เฮ้ย...อย่าลามปาม กระเพราเขาทำอะไรให้แก” เก้งปรามเพื่อน
“แหม.....ความรักมันท่วมหัว เอาตัวไม่รอด.....คนสวยๆ
แจ่มๆมีตั้งเยอะ
หล่อเร้าใจอย่างแก...ทำไมจะหาไม่ได้”
สันติแสดงความเห็น
“ความรักมันบังคับกันไม่ได้หรอก.....ถ้ามันใช่
มันก็ใช่...”
ความคิดของเก้งตรงกันข้ามกับกระเพรา
เพราะกระเพราไม่มีแม้แต่หัวใจสักช่องที่จะเหลือไว้คิดเรื่องอื่น
กระเพราไม่ค่อยชอบใจที่เก้งชอบแอบมอง
ถึงแม้ว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของเก้งจะทำให้เธอหวั่นไหวบ้าง
แต่นั่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่กระเพราจะเอาไปคิด “กระเพรา...วันนี้ไปดูหนังกับเราไหม”
เก้งพูดกับกระเพราพร้อมกับทำตาหวานซึ้ง “ขอบคุณมากเก้ง แต่เราไม่ว่างหรอก”
กระเพราตอบตามตรง “เอ่อ...วันหลังก็ได้กระเพรา เรารอได้เสมอ” เก้งยังมีลูกตื๊อ
“อืมม.....ถ้าว่างแล้วจะบอกนะ”
กระเพราตอบพร้อมกับเดินหันหลังและแอบอมยิ้ม
“เดี๋ยวสิ......รอเดี๋ยว
เรามีอะไรจะให้....เอ่อ...คือ..ว่า...เธอจะไปสอบตรงใช่ไหม....เราขอเอาใจช่วยเธอนะ”เก้งพูดจากใจจริง“ขอบใจมากเก้ง......ขอบใจจริงๆ”
กระเพราตอบพร้อมกับรับกล่องใบใหญ่จากเก้ง
หัวใจของกระเพราเต้นแรงและหน้าแดงก่ำ วันนี้กระเพราเปลี่ยนไป
อาจเป็นเพราะความพยายามของเก้งตลอด 1 ปี สำเร็จแล้ว
กล่องใบใหญ่ที่เก้งให้กระเพราเป็นรูปวาดอัดกรอบอย่างดี พร้อมกับ CD
ที่บันทึกเสียงของเก้งร้องเพลง “พรุ่งนี้ไม่สาย”
เพลงฮิตในอดีตของศิลปินชื่อดังที่ถูกนำมา cover ใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
“อดทนเก็บความในใจแล้วรอแค่วันเวลา ให้มันหมุนช้าๆ แล้วเดินไปกับมัน
อดทนเก็บความในใจ แล้วเรียนรู้กันและกัน เพื่อให้เรามีความมั่นใจ
ว่าเรานั้นมีความลึกซึ้งเพียงใด พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน”
ซีรีส์ "ปฏิรูปการศึกษา" ณ โรงเรียนนอกกะลา
-
ช่วงคุย กับครูใหญ่วิเชียร ไชยบัง
*ถาม : อยากให้เด็กจบจากที่นี่ เป็นเด็กแบบไหน สอบติดมหาวิทยาลัยดังๆ หรืออะไร*
* ครูใหญ่ : เราก็ไม่รู้ว่า อนาคตอาชีพไหนจะยังร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น