เมื่อ วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2552
เหตุเกิดที่บนรถบัส สุรินทร์-ขอนแก่น ระยะทางจากสารคามถึงบุรีรัมย์
ดิฉันออกเดินทางจากบ้านประมาณ 09:00 น.
โดยมีแม่ที่แสนจะน่ารักมาส่งด้วยตัวเองที่คิวรถ
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งมาถึง จ.สารคาม รถหยุดพัก 5 นาที
ให้ผู้โดยสารลงและรับผู้โดยสารเพิ่ม
วันนั้นไม่รู้ผู้คนหลั่งไหลมาจากไหนไม่ทราบยิ่งกว่าคนไปซื้อของลดราคาที่ห้างดัง ๆ
ผู้โดยสารเริ่มเดินขึ้นมาทีละคนอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดยั้งทั้งเด็ก สตรี คนแก่ โอ้โฮ
แต่ละคนที่เดินขึ้นมาต่างคิดกันในใจว่าเราจะมีที่นั่งหรือไม่
และคำถามอีกอย่างก็ตามมาเราต้องยืนอีกนานแค่ไหนถึงจะได้นั่ง
(ดิฉันคิดว่าคงอยากหากท่านไม่ไปลงที่บุรีรัมย์เพราะคนเยอะมากๆ)
ที่นั่งที่ฝนนั่งมานั้นติดที่หน้าต่างและนั่งมากับสาวสุรินทร์ที่นั่งติดทางเดิน
เรามองหน้ากันและพูดว่าทำไหมวันนี้คนเยอะจัง
แล้วพี่สาวสุรินทร์คนสวยก็ฝากเป้และกระเป๋าคอมมาให้ฝน
พร้อมกับหลุกยืนขึ้นให้แม่ลูกสามคนมานั่งแทน
แม่น่าจะอายุประมาณ 28 ปี หรือน้อยกว่านั้น มีลูกวัย 4 ปี และ 1 ปี 3 เดือน
(แม่เขาบอกมา)ฝนเห็นแล้วภูมิใจในความมีน้ำใจของคนไทยจริงแท้
ทั้งสวยทั้งใจดี มีน้ำใจ เสียสละทีนั่ง 1 ที เพื่อคนอีก 3 คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
ระยะเวลาตั้งแต่สารคามจนถึงบุรีรัมย์ฝนกลายเป็นแม่จำเป็น
ที่ต้องประคองลูกน้อยวัย 4 ปี นอนที่ตัก
ถามถึงแม่เด็กคงเบาแรงนิดหน่อยเพราะต้องเอานมให้ลูกอีกคนทุก ๆ
20 นาทีจะเห็นได้ เด็กน้อยน่ารักมากค่ะนอนหลับปุยเลย
นี้ละค่ะประทับใจสุด ๆ เลย อยากเห็นคนไทยรักและห่วยใยกันเยอะๆ
เหตุการณ์ในปัจจุบันคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่แท้
ซีรีส์ "ปฏิรูปการศึกษา" ณ โรงเรียนนอกกะลา
-
ช่วงคุย กับครูใหญ่วิเชียร ไชยบัง
*ถาม : อยากให้เด็กจบจากที่นี่ เป็นเด็กแบบไหน สอบติดมหาวิทยาลัยดังๆ หรืออะไร*
* ครูใหญ่ : เราก็ไม่รู้ว่า อนาคตอาชีพไหนจะยังร...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันก่อให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ
ตอบลบการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นสุขอย่างยิ่ง
ตอบลบ