24 ก.ย. 2557

การเรียนรู้ | ดอนปู่ตา

เช้าของวันอันสดใส แสงแดดอ่อนๆ ปกคลุมพื้นหญ้าเขียวขจีโดยทั่ว หน้าอาคารเรือนไทยบ้านมัธยม
_ช่างเป็นเช้าที่สดชื่นเหลือเกินและสวยงามเสียเหลือเกินในความรู้สึกของครูคนหนึ่ง ในค่ำคืนนั้นก่อนบรรยากาศอันสดชื่นนี้จะปรากฏให้เห็นฝนได้ตกกระหน่ำตลอดทั้งคืน ทำให้ผมนอนฟังเสียงฝนด้วยความอิ่มเอมใจ มองเห็นถึงความชุ่มฉ่ำของพื้นดินกันต้นหญ้าโดยทั่วที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น คิดถึงต้นไม่ใบหญ้าที่จะรายรำตัวเองกลางสายฝน

_ทุกๆ เช้าก่อนจะเริ่มเรียนวิชาแรกของแต่ละวัน เด็กๆ จะได้ทำกิจกรรมจิตศึกษาร่วมกับคุณครู เราจะใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันราว 20 นาที
กิจกรรมจะดำเนินไปด้วยความเรียบงาย สงบ ครูจะคอยอำนวยกิจกรรมสอดแทรกแง่คิดและเสริมปัญญาภายในให้กับเด็กๆ ด้วยคำถาม จิตศึกษายังได้ช่วยบ่มเพาะตัวของครู ในทุกๆ วันที่กิจกรรมเสร็จครูเองก็ได้เตรียมสภาพจิตใจ(ปัญญาภายใน) ได้ใคร่ครวญตัวเองในภวังค์ของความคิดที่ใช้สติกำกับทุกๆ คำพูดที่จะสอนศิษย์ ใช้ความเมตตาต่อลูกศิษย์เป็นตัวกำหนดวุฒิภาวะของครู
:: : ::
ขณะที่ผมเรียนอยู่มัธยมตอนต้น ผมมีโอกาสได้เดินชมป่ากับคุณครู โรงเรียนของผมอยู่ที่ชนบทและรายรอบโรงเรียนฯ เต็มไปด้วยผืนป่าใหญ่เขียนขจี ป่านั้นเป็นแหล่งอาหารของคนในชุมชนอีกด้วย และที่สำคัญป่านั้นมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่าดอนปู่ตา
ผมได้ฟังเรื่องราวต่างๆ หลากหลายนิทานและตำนานพิลึกกึกกือที่เล่าถึงดอนปู่ตาแห่งนี้ได้ถูกถ่ายทอดจากปากของผู้เฒ่าสู่ลูกหลานหลายชั้นหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านทุกคนจะละเว้นสัตว์ทุกตัวที่อาศัยอยู่บริเวณป่าแห่งนี้และต้นไม้ทุกต้นจะไม่เคยถูกตัดออกจากป่าเลย ผมเคยเข้าไปศาลปู่ตาดูครั้งหนึ่ง ผมมองลึกเข้าไปในทางเดินก่อนจะถึงศาลดอนปู่ตา ศาลเจ้าและซากเหลือของพวงมาลัยเครื่องบูชาตลอดจนริ้วรอยของผ้า ผ้าแพรเก่าใหม่หนาชั้นที่รัดรึงอยู่บริเวณโคนเสาเอกของศาลปู่ตา ดูประการหนึ่งดั่งกำแพงศักดิ์ที่คอยกั้นกางอาการลบหลู่ดูหมิ่นมิให้ย่างกรายเข้าไปถึง ไม่เคยมีใครสักคนถามว่าทำไมต้องมีสิ่งเหล่านี้ประดับอยู่รายรอบที่ศาลปู่ตา ไม่มีคำสอนใดๆ จากปากของผู้เฒ่าให้กระทำสิ่งประหนึ่งความชั่วร้ายนี้ มีก็เพียงแต่คำสอนให้เชื่อถือและปฏิบัติตามประการเดียวเท่านั้น – เป็นคำเล่าขาน และผมนึกได้จากคำสอนเมื่อสักราว 15 ปีก่อน
โอกาสที่ครูได้สอนเราในห้วงเวลาที่เหมาะเจาะและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เอื้ออำนวยในวันนั้น ผมเดินป่าได้สนุกมากและเพื่อนๆ ทุกคนรื่นรมย์ ผมโชคดีมากที่ได้เรียนกับคุณครูที่ท่านเป็นนักเล่าเรื่องตัวยง ดังกับนักเล่าการ์ตูนที่ทำให้เด็กๆ นั่งติดอยู่หน้าจอโทรทัศน์อย่างงอมแงม ทำเอาผมและเพื่อนๆ ถือปฏิบัติต่อคำสอนนั้นตราบจนทุกวันนี้ ก็ไม่เคยมีใครคิดจะไปค้นหาคำตอบจากดอนปู่ตาแห่งนั้น
ประสบการเดิมของผมกับดอนปู่ตาแห่งนี้ มีมากมายหลายเรื่องที่นำมาเล่าสอนลูกศิษย์ ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ครูป้อนให้

17 ก.ย. 2557

หุ่นประดิษฐ์สร้างสรรค์

การเรียนรู้ของเด็กๆ เกิดขึ้นทุกๆวัน + ความสุขเล็กๆ

กับการซ่อมสิ่งประดิษฐ์หุ่นจากเศษไม้ บางชิ้นติดต่อกันด้วยกาวร้อนและไม่ยืดติดดีพอทำให้หุ่งพังทลาย เวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน เด็กๆ ได้ฐานรองพื้นให้หุ่นไว้เป็นที่พักอย่างสวยงามและลงตัว

_โดยเเมื่อเช้าครูขออาสาเด็กๆ ให้ไปเลือยไม้เป็นฐานรองพื้นให้หุ่นเพื่อไว้ยืน และมีพี่โ๊อตกับพี่ชาร์ปอาสาไปเลือยไม้กับผม และเด็กๆ อีกกลุ่มครูณีพาซ่อมแซมงานเก่าจนเสร็จ
พอผมกลับมาหุ่นทุกๆ ตัวเสร็จสมบูรณ์ เตรียมที่จะขึ้นยืนที่ฐานรอง เด็กๆ รับฐานรองและใช้กระดาษทรายขัดแผ่นไม้รองอย่างตั้งใจ และนำหุ่นขึ้นยืน ใช้กาวร้อนติดเท้าของหุ่นรองที่ฐานยืนตั้งอย่างสวยงาม

_หากความตั้งใจนี้ของเด็กในวันนี้ ผมเชื่อว่าการเรียนรู้นี้จะต่อยอดฐานความคิดด้านจินตนาการให้เข้าได้ใช้ประโยชน์จากงานประดิษฐ์จากเศษวัสดุธรรมชาติ ให้เกิดการเรียนรู้
สู่อาชีพงานเสริมรายได้ ฝึกฝนทักษะชีวิตให้การอยู่เป็น อยู่ร่วมกันธรรมชาติด้วยความเคารพต่อสรรพสิ่งรอบตัว เห็นคุณค่าจากภาระงานที่ทำทุกๆ ชิ้น

:: ความสุขเล็กๆ จึงบังเกิดกับการเรียนรู้เสมอๆ.

11 ก.ย. 2557

ฮีโร่ - HERO

เดือน 9 เช้าที่ 11 ก.ย.
หลายคนคงจดจำกันได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ตึกเวริอเทรดถล่ม จากผู้ก่อการร้ายแถบทะเลทราย
ทุกๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้นมา ล้วนจะเป็นประวัติศาสตร์ให้แก่ชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาที่มาของเหตุการณ์เกิดจากสาเหตุใด? ภูมิหลังที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้คืออะไร?
ผมเคยได้ฟังเรื่องราวจากเหตุการณ์นี้มาหลายๆ ครั้ง มีเรื่องราวเกี่ยวกับสุนัขยอดฮีโร่ที่พาเจ้านายตาบอด ลงมาจากตึกวันที่โดนโจมตีจากชั้น 84 ได้สำเร็จและรอดตายอย่างปาฏิหาริย์
และอีกข่าวหนึ่งที่โด่งดังกันไปทั่วโลก มีบุคคลเข้าไปกราดยิงครูและนักเรียนในโรงเรียนฯ แห่งหนึ่งในอเมริกาหลายคนที่ตามข่าวคงได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้จากหลายๆ สื่อ
มีฮีโร่คนหนึ่งเธอคือ แครี โซโต หลังจากทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ว่าน้องสาวเธอคือวิคตอเรีย โซโต ครูพี่เลี้ยงในโรงเรียนเสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนอนุบาลที่คร่าชีวิตเด็กและครูไป 26 ศพ แต่น้องสาวเธอได้ทำสิ่งที่คนทั้งโลกต้องคารวะในความกล้าหาญและเสียสละที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำเพื่อคนอื่นได้
วิคตอเรีย โซโต เป็นครูพี่เลี้ยงของนักเรียนเกรด 1 ในโรงเรียน หลังจากที่เธอรู้ว่าภัยกำลังมาถึงเธอและเด็กๆ เธอตัดสินใจพาเด็กๆทั้งหมดในชั้นเรียนของเธอไปซ่อนไว้ในห้องเล็กๆ และตู้ต่างๆ เท่าที่เธอจะทำได้ 
จากนั้นปิดล๊อคห้องแล้วตัดสินใจเดินเข้าหาฆาตกร บอกกับฆาตกรว่า ทุกคนในโรงเรียนอยู่ในโรงยิมเพื่อปกป้องๆ เด็กๆ ของเธอไว้ ผลคือฆาตกรหันปากกระบอกปืนมาทางเธอ ยิงเธอเสียชีวิตตรงนั้น แล้วไปตามที่เธอว่า โดยที่เด็กๆ ทั้งชั้นเรียนของเธอปลอดภัยทั้งหมด
ในสถาณการณ์ชีวิต มีคนสักกี่คนที่จะทำแบบนี้ได้ ยอมตายเพื่อปกป้องชีวิตเล็กๆ ในอ้อมแขน โดยไม่ลังเล ในนิยาย ในการ์ตูนฮีโร่ แต่งตัวสวยหรู เหาะเหินเดินอากาศได้ มีพลังพิเศษ แต่ในโลกของความเป็นจริง ฮีโร่ ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านั้น แด่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ความกล้าหาญ และหัวใจอันงดงาม

เราทุกคนถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน คุณก็อาจจะเป็นฮีโร่ได้เสมอ
แต่ก็อาจจะแล้วแต่ตัวตนของคนแต่ละคน ที่จะแสดงความเป็นฮีโร่(เสียสละ) ออกมามากน้อยเพียงใด ตามเหตุการณ์ที่ปีบบังคับให้ปลดปล่อยตัวตนออกมา

4 ก.ย. 2557

โต๊ะโต๊ะจัง

หนังสือแปลเรื่องโต๊ะโต๊ะจังเป็นเรื่องจริงของครูญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูและ พยายาม จะสอนให้ลูกศิษย์เติบโตขึ้น อย่างมีชีวิตจิตใจ ไม่ใช่มีแต่เพียงร่างกายและสมอง แม้จะไม่ได้ รับเงินทุนสนับสนุน อะไรมากมายนัก แต่เขาก็พยายาม คิดหาวิธีที่จะ ทำให้ลูกศิษย์รู้สึกสนุก ในการเรียนรู้ และเห็นว่าการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

เขาเริ่มต้นให้เด็กตื่นตาตื่นใจ ด้วยการนำตู้รถไฟเก่าๆ มาดัดแปลงเป็นห้องเรียนแทนที่จะสร้าง อาคารเรียน สูงๆ เด็กๆ ชอบนั่งรถไฟกันอยู่แล้ว พอเข้าไป ในห้องเรียน ครูไม่ได้บอกว่า จะสอน ประชาธิปไตย แต่ฝึกให้เด็กรู้จักลักษณะของความเป็นประชาธิปไตย ด้วยการนั่ง อย่างมีระเบียบ โดยไม่ต้องกำหนด ที่นั่งประจำ ขณะที่ครูสอน นักเรียนก็มีสิทธิซักถามและอภิปรายได้

ถึงชั่วโมงประวัติศาสตร์ ครูก็พานักเรียน เดินไปชมวัดหรือสถานที่อันเป็นโบราณสถานประจำท้องถิ่น ระหว่างทาง ก็สอนธรรมชาติศึกษา ให้เด็กรู้จัก ต้นหมากรากไม้ คูคลอง หนองบึง ให้ได้เรียนได้สัมผัส กับของจริง ทุกอย่าง เด็กได้รับความรู้ ไปพร้อมๆ กับความเพลิดเพลิน ก็จะจดจำได้ไม่ลืม

ผู้เขียนประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดง และเป็นผู้จัดรายการทีวีที่มีชื่อเสียง มาก ตลอดชีวิต เธอไม่เคยลืม คุณครูผู้นี้เลย เมื่อตอนเป็นเด็ก เธอซุกซนมาก อยากรู้อยากเห็น ช่างซักช่างถาม ไปเรียน หนังสือ ก็จะซักถามครูอยู่ตลอดเวลา เช่น เมื่อเห็นนกก็อยากรู้ว่า นกนี้มันเป็นอย่างไร มันมาทำไม มันพูดว่าอะไร นกมันก็พูดภาษาของนก แต่เด็กเต็มไปด้วยจินตนาการ อยากรู้อยากเห็น จนครู โรงเรียนนั้น บอกกับแม่ของโต๊ะโต๊ะจังว่า ไม่ไหวแล้ว ขอให้เอาไปเรียนที่อื่น พูดง่ายๆ ก็คือไล่ออก แต่พูดอย่างสุภาพ

แม่ก็พยายามหาโรงเรียนให้ลูกใหม่ จนไปพบโรงเรียนรถไฟ ก็พาลูกเดินเข้าไปโดยไม่มีความมั่นใจเลยว่า ครูโรงเรียนนี้ จะยอมรับลูกสาว ตัวน้อยหรือไม่ หนูน้อยนั้น พอเห็น โรงเรียนก็ชอบใจ อยากจะเรียนที่นี่ แม่ก็เข้าไปคุยกับครูใหญ่ ซึ่งรูปร่างหน้าตา ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย หัวก็ล้าน ฟันหน้าก็หัก

พอพบหนูน้อยตาใสแจ๋ว ท่าทางมีความ สุจริตเชื่อมั่นอย่างไร้เดียงสา ครูใหญ่ก็ชวนพูดคุย คือ สัมภาษณ์นั่นเอง แม่หนูก็เล่าให้ฟังทุกอย่าง ถึงสิ่งที่อยู่ในใจ คุยกัน ๓ ชั่วโมง จนถึงเวลาอาหาร กลางวัน ครูใหญ่ก็ชวนไปกินข้าว โต๊ะโต๊ะจังขอถาม อีกประโยคหนึ่งว่า "แล้วหนูจะได้เข้าเรียน ที่โรงเรียนนี้ไหม?" ครูใหญ่ตอบว่า "แน่นอนที่สุด"

เมื่อเติบโตขึ้นเธอจึงไม่เคยลืมพระคุณของครูคนนี้ ที่ได้ช่วยให้เธอเป็นคนมีจิตวิญญาณ ที่สามารถ มองโลก ด้วยความแจ่มใส และถูกต้อง จนยืนขึ้นได้ ด้วยตัวของตัวเอง อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ลองนึกดูว่า ถ้าเด็กน้อยคนนี้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนหนึ่ง แล้วพอไปเข้าโรงเรียนใหม่ ก็ถูกไล่ออกอีก อนาคตของเธอ จะเป็นอย่างไร คงจะไม่ได้เป็นผู้ที่ได้รับความสำเร็จ ในชีวิตเช่นนี้ นอกจากจะเป็น ผู้จัดรายการทีวีแล้ว เธอยังเป็น นักเขียนหนังสือ สำหรับเด็ก และทำงานที่มีประโยชน์ อีกหลายอย่าง จน ได้รับเลือกจากองค์การยูนิเซฟ ให้เป็นทูตเพื่อเด็ก