26 ก.พ. 2554

การ์ตูนคณิตศาสตร์

ผลงานของ..
ด.ญ.วิทิตา อุดรโสม(พี่ฟ้า ป.5) โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
พี่ฟ้าจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีการ์ตูน 4 เรื่องครับ
1.รูปคลี่เรขาคณิต 3 มิติ
2.เดินทางตามหานาฬิกา
3.บ้านฉันอยู่ทิศไหน
4.เพลงคณิตของครูป้อม
 




 

สิ่งเล็กๆ ของตุ๊บป่อง

ผลงานของ..
ด.ญ.สุชาดา กัณฑา(พี่มายด์ ป.4) โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
พี่มายด์แต่งเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายตุ๊บป่อง 
ได้อย่างสนุกสนานมากเลยทีเดียวนะครับ..



นิทานเรื่อง 'วงกลมง่ายจริงๆ'

ผลงานของ..
ด.ญ.จตุพร แสงทอง(พี่แนน ป.6)  โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
พี่แนนจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับวงกลมก็เลย
แต่งนิทานขึ้นมานำเสนอคุณครู 1 เรื่อง ในชุดความรู้เล่มนั้น..




22 ก.พ. 2554

ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่...

     หลายครั้งที่ผมได้มีโอกาสไปนั่งวงสนทนากับผู้รู้มากมายหลายท่านล้วนแล้วแต่เกิดประโยชน์มากมายเกินกว่าที่ผมจะไปแสวงหาอ่านจากหนังสือหรืออินเตอร์เน็ตได้..
     วันนั้นในวงสนทนาผมได้ฟังเรื่องนั่งวิ่งมาราธอนคนหนึ่งซึ่งเราไม่มีใครทราบชื่อเขาแน่ชัดกันเลย แต่รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชนะเลิศและเขาก็ไม่ได้ทำลายสถิติใดๆ เลยในการแข่งขัน เขามาถึงเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายด้วยซ้ำและเพราะเหตุนั้นโลกถึงต้องจารึกเขาไว้ในประวัติศาสตร์
    พอผมกลับมาถึงห้องผมก็เปิดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอ่าน ผู้เขียนคือ 'พระไฟศาล วิสาโล' เขียนเกี่ยวกับนักวิ่งคนนี้พอดี เขาคือ 'จอห์น สตีเฟน อัควารี' เขาเป็นตัวแทนประเทศแทนซาเนีย เขาวิ่งฝ่าความมืดมายังสนามกีฬาอย่างกะโผกกะแผลก ขาข้างขวาของเขาอาบนองไปด้วยเลือดและพันด้วยผ้าพันแผล
    เขาเป็นนักวิ่งมาราธอน แต่เหรียญทองโอลิมปิกปี พ.ศ.2511 ได้มอบแก่ผู้ชนะไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ผู้ชมเริ่มทยอยกลับบ้านกันไปเกือบหมดจนสนามแทบร้าง แต่เขาก็ยังอุตส่าห์พาสังขารมาถึงเส้นชัยในที่สุด..

ต่อมาได้มีผู้สือข่าวเข้ามาถามเขาว่า เหตุใดเขาจึงไม่หยุดวิ่งทั้งๆ ที่ไม่มีโอกาสที่จะชนะแล้ว
เขาวิ่งมาเหนื่อยๆ งุนงงสักพัก แล้วตอบไปว่า..
"ประเทศของผมไม่ได้ส่งผมมาเพื่อออกสตาร์ต แต่ส่งผมมาเพื่อวิ่งให้สำเร็จ"

12 ก.พ. 2554

'ครอบครัว'ที่คิดต่างกันกับการสอบแข่งขันของลูก...

    ผมเคยเปิดดูรายการหนึ่งเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาเป็นการพูดบรรยายเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไปโดย พอ.นพ.พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา ซึ่งมีอยู่ตอนหนึ่งที่ผมประทับใจมากที่ท่านเล่าไว้เกี่ยวกับ 2 ครอบครัวที่คิดต่างกัน
    ครอบครัวที่ 1 ; พ่อ แม่ นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารรอลูกมากินข้าวพร้อมกัน ลูกกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านส่งซองจากโรงเรียนให้แม่ 'เป็นประกาศผลสอบของโรงเรียน' 
พออ่านผลสอบปรากฎว่าสอบได้ที่ 2 ทุกคนในบ้านเครียดหมดเลยครับ "ไอ้ลูกไม่รักดี พ่อ แม่ อุส่าห์เอาใจทุกอย่างซื้อหนังสือให้ พาไปเรียนพิเศษ พาไปกวดวิชาที่ดังๆ ทำไมยังโง่ยังงี้ แค่สอบให้ได้ที่ 1 แค่นี้ทำไมทำไม่ได้" นั่งด่าลูก!! ข้าวปลาไม่ต้องกิน บรรยากาศในโต๊ะอาหารเครียดมาก..
    ครอบครัวที่ 2 ; ข้างบ้านเป็นชั่วคราวของคนงานก่อสร้าง พอเปิดซองผลการสอบของลูก เฮกันลั่นบ้านเลยครับ ปรบมือดีใจหัวเราะกันสนั่นหวั่นไหว..
ครอบครัวที่ 1 สงสัยเดินเข้าไปถาม
"ลูกคุณสอบได้ที่ 1 หรือครับ ถึงได้ดีใจกันขนาดนี้?"
"เปล่าหรอกครับ"
"อ้าว! แล้วได้ที่เท่าไรล่ะ?"
"ได้ที่ 29 ครับ"
"สอบได้ที่ 29 ทำไมถึงต้องดีใจกันขนาดนี้ล่ะ!!"
"อ๋อ..ปกติมันสอบได้ที่ 30 ครับ.."

    ความแตกต่างทางด้านความคิด นี่คือคนที่คิดเป็นกับคนที่คิดไม่เป็น
คนหนึ่งทั้งชั้นเขาแพ้แค่คนเดียว เครียดแทบตาย! ส่วนอีกคนทั้งชั้นเขาชนะแค่คนเดียว ดีใจกันทั้งบ้าน

    ตอนท้ายเรื่องนี้ นพ.พงษ์ศักดิ์ ท่านยังได้เปรียบเปรยครอบครัวทั้ง 2 ว่า
ครอบครัวที่ 1 'คิดในแง่ลบ'
คิดเรื่องแพ้ แพ้คนเดียว แต่ชนะ 28 คน เครียด
ครอบครัวที่ 2 'คิดในแง่บวก'
คิดเรื่องชนะ ชนะแค่คนเดียว แต่แพ้ 28 คน มีความสุข

6 ก.พ. 2554

ต้นไม......แห่งชีวิต


ต้นไม้ ป่าไม้ ไม่เพียงแต่ให้ร่มเงา ให้ที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งให้อาหารแก่มวลมนุษย์แ
ละสรรพสัตว์ สิ่งที่มีค่าที่สุดที่ต้นไม้ ป่าไม้ มอบให้เรา คือ การได้ให้ชีวิตแก่เรา มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมีลมหายใจ การที่จะมีลมหายใจได้ก็เพราะมีก๊าชออกซิเจน การทืี่จะมีก๊าชออกซิเจนได้ก็เพราะทีต้นไม้... ...แล้ว...ถ้า...วันหนึ่งไม่มีต้นไม้แล้วจะเป็นอย่างไร มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายจะหายใจได้อย่างไร นั่นคือ จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร....คำถามนี้เป็นคำถามใหญ่...ผมอาจจะไม่ฉลาดมากพอที่จะรู้ทั้งหมดว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีต้นไม้จะเป็นอย่างไร..อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง.... พอคิดอย่างนี้ก้เป็นเรื่องใหญ่ที่เราควรจะให้ความสำคัญกับดูแลและรักษาต้นไม้กันอย่างจริงจังกันซักทีนะครับ ...มาร่วมรักษ์ต้นไม้ ป่าไม้ กันเถอะครับ