31 ต.ค. 2553



คุณเจมส์ ผู้บริจาคเงินสนับสนุนโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ยังมาร่วมเรียนรู้วิถีของชุมชนทั้งดำนาและเกี่ยวข้าวร่วมกับเด็กๆ และผู้ปกครอง เราอยู่ชุมชนนี้เราจะนิ่งดูดายไม่รู้จักการดำนาและเกี่ยวข้าวได้อย่างไร

30 ต.ค. 2553

หนูมาเข้าแถวช้าฮะ...

     ทุกวันที่นักเรียนโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาเข้าแถวตอนเช้า นักเรียนบางคนมานั่งรอเข้าแถวตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนถึงเวลาเสียอีก โรงเรียนของเราไม่มีเสียงอ๊อดเสียงระฆังแต่นักเรียนของเราเขามีเสียงระฆังของเขาแต่ละคน พอถึงเวลา 07:55 น. นักเรียนทุกคนเริ่มทยอยมาเข้าแถวอย่างพร้อมเพียง ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

     ในบางวันจะมีนักเรียนบางคนมาเข้าแถวช้าหลังจากที่เพื่อนๆ นักเรียนทุกคนพร้อมเพียงและเริ่มทำกิจกรรมหน้าเสาธงแล้ว นักเรียนคนนั้นที่มาเข้าแถวช้าในวันนั้นก็จะเดินไปยืนอยู่ตรงจุดที่เตรียม ไว้เพื่อนักเรียนที่มาทำกิจกรรมช้าหลังเพื่อนๆ ทุกคน โดยที่นักเรียนคนนั้นต้องยืนรอจนกว่านักเรียนทุกคนจะทำกิจกรรมหน้าเสาธง เสร็จสิ้น แล้วจากนั้นก็จะมีครูเวรในวันนั้นเป็นผู้ดูแลนักเรียนที่เข้าแถวช้าหรือมา สายเพื่อให้เริ่มทำกิจกรรมใหม่ โดยเริ่มจาก สอบถามเหตุผลของนักเรียนที่มาเข้าแถวช้าของแต่ละคนว่าเพราะอะไร? และจะมีแนวทางวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่มาเข้าแถวช้านี้อย่างไร?  จากนั้นก็ให้นักเรียน ร้องเพลงชาติไทย สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา และให้เขาแยกย้ายเข้าชั้นเรียน

     ผมได้สัมผัสความแตกต่างของ นักเรียนที่นี้เรื่องการมีระเบียบวินัยของตัวนักเรียนเอง การที่เขารู้หน้าที่ว่าตัวเองมาเข้าแถวช้ากว่าคนอื่นควรทำอย่างไร กล้าที่จะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเขาเอง ด้วยตัวเขาเอง โดยที่ครูไม่เคยไปบังคับให้เขาไปยืนตรงจุดนั้นแม้แต่คนเดียว...

28 ต.ค. 2553

คนจัดดอกไม้ ดอกไม้จัดใจคน










คนจัดดอกไม้ ดอกไม้จัดใจคน

เมื่อโลกหมุนเวียนนำพาสังคมสู่วิกฤตการต่างๆ จิตใจผู้คนย่อมอ่อนแอและอ่อนล้าขาดความมั่นคงทางจิตใจ การนำพาสังคมฝ่าวิกฤตนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกคุณค่าความดีงามให้เติบโตขึ้นที่จิตใจของมนุษย์

การจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นับเป็นสะพานสายหลักที่นำไปสู่การพัฒนาจิตวิญญาณของคนทำงาน เพราะคือโอกาสและช่วงเวลาที่งดงาม ซึ่งจะนำพาเพื่อนร่วมงานตลอดจนเพื่อนร่วมสังคม จากแวดวงการทำงาน จากหลากหลายสาขาวิชาชีพ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการทำงาน วิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังอุปสรรค์การทำงาน การก้าวผ่านอุปสรรค์และปัญหาจากการทำงาน รวมทั้งสร้างความสุขให้กับหัวใจคนทำงาน ผ่านการทำงานที่เกิดขึ้น ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้กลายเป็นเรื่องเล่าที่มีอาณุภาพ ในการนำความภาคภูมิใจ แรงบันดาลใจ ที่ผ่านการบอกเล่าของคนธรรมดาเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ยิ่งใหญ่และมีพลังที่จะช่วยเปลี่ยนแนวคิดและวิถีเดิมๆ ของคนทำงาน พร้อมนำพาคุณค่าแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตในด้านต่างๆ จากเพื่อนมาสู่เพื่อน จากสังคมเล็กมาสู่สังคมใหญ่ หัวใจสำคัญของกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาจิตวิญญาณในชีวิตการทำงานจึงประกอบด้วย Knowledge Management with Spiritual Reflection (แลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การพัฒนาจิตวิญญาณ) คือการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีการออกแบบให้เกิดพื้นที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศ สร้างสรรค์เสรีภาพทางปัญญา เพื่อให้ผู้เข้ามาร่วมวงเกิดความรู้สึกมีอิสระในการถ่ายทอดเรื่องราววิธีการทำงานของตนเอง

Knowledge Management with Spiritual Reflection ถือเป็นหัวใจของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาจิตวิญญาณ เป็นกระบวนการที่จะทำให้ผู้เข้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกคุณค่า วิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังการทำงานนั้นๆ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการทำงานของผู้ร่วมแลกเปลี่ยน ได้อย่างเปิดหัวใจ

และเพื่อให้เกิดพลังแห่งการส่งต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปในวงกว้าง เสมือนแรงกระเพื่อมของน้ำที่ส่งพลังไปยังพื้นที่รอบๆ จากปัจเจกสู่องค์การและสู่สังคม ในที่สุด

เป้าหมายหลักของกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จึงมิใช้เป็นแค่กระบวนการในการสร้างประสิทธิภาพหรื อคุณภาพของงานที่ทำ แต่คือการพัฒนาหัวใจของคนทำงาน และคุณค่าของงานที่เกิดจะเติบโตงอกงามได้ ทั้งในใจของเจ้าของผลงาน และสังคมรอบข้าง ปรากฏการณ์จากการพัฒนาหัวใจของคนทำงานจึงเกิดขึ้นได้ดั่งนี้

Empowerment หัวใจของบุคลากรในการทำงานหรือองค์กร เกิดการเสริมพลังซึ่งกันและกัน มีกำลังใจที่จะทำงานและฝ่าฟันอุปสรรค์ในการทำงานด้วยมุมมองใหม่ที่ต่างจากเดิม

Inovetion บุคลากรในหน่วยงานหรือองค์กรสามารถค้นพบศักยภาพ พัฒนาการทำงานของตนเองและพร้อมที่จะพัฒนาสร้างสรรค์คุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานใหม่ๆ

Spirituality บุคลากรในหน่วยงานหรือองค์กรพัฒนาเสรีภาพทางปัญญา มองเห็นคุณค่าในวิชาชีพของตนเอง และสามารถพัฒนาความสุขคุณค่าของชีวิตให้เกิดไปพร้อมๆ กันกับการทำงาน

การมีเรื่องเล่าดีๆ ในองค์กรเป็นการจุดพลังพลังให้องค์กรถ่ายทอดสิ่งดีๆ ที่เกิด ซึ่งจะทำให้สิ่งดีๆ ในตัวเราแผ่ขยายไปเรื่อยๆ

เมื่อใดที่คนทำงานมีความสุขยิ้มได้แม้ในยามที่อาบเหงื่อและเห็นคุณค่าของงานที่ทำ พร้อมๆ ไปกับการมองสรรพสิ่งรอบข้าง ด้วยความเมตตาและเอื้ออาทร ผลงานที่ได้นั้นจึงยิ่งใหญ่และมีค่ายิ่ง เมื่อเราค้นพบความหมายของชีวิตมีจิตวิญญาณ ที่ได้รับการดูแลพัฒนาไปพร้อมๆ กับการทำงาน

กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จึงเปรียบเสมือน การบรรจงจัดดอกไม้ลงในหัวใจของผู้คน จากหนึ่งเป็นสอง จากร้อยเป็นพันและนับหมื่น การร่วมกันสร้างเครือข่ายขยายผลของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เพื่อการพัฒนาจิตปัญญาของบุคลากร คือการบ่มเพราะต้นกล้าของพันธุ์ไม้สวยมากมาย ที่พร้อมจะผลิบานในหัวใจคนที่นำไปสู่สังคมที่เติบโตด้วยการช่วยบ่มเพาะหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ที่งดงาม

คนจัดดอกไม้ ดอกไม้จัดใจคน

จัดดอกไม้ในใจคน








ผมได้เรียนรู้สองสามประเด็น ประเด็นแรกทำอะไรทำให้ดีทำให้คนถามถึง ข้อสองคือการมีเพื่อนเวลาทุกข์ มีคนเข้ามาปรับทุกข์ มาเติมกำลังใจในเวลาที่มันแทบจะไม่เหลือแล้ว ประเด็นที่สาม ธรรมะไม่ได้อยู่ในวัดในบาลี แต่ธรรมะอยู่ในชีวิตประจำวันจริงๆ เราอาจจะย้อนกลับไปดูทุกวันที่เราทุกข์เราอาจจะหยิบเครื่องมือออกมาใช้ไม่ถูกหรือเปล่า

ความเชื่อในความดีของผู้คนที่ยังมีอยู่มันเป็นพลังที่จะอยู่กับความผิดหวัง ความไม่สมหวังตรงนั้น และยังสามารถที่จะก้าวไปเห็นสิ่งที่มันดีขึ้นได้

ตอนนี้ปัญหาที่มันมีขึ้นเรามองที่เราอยู่ได้ สิ่งที่บางคนทำแล้วมีปัญหากับเรา จริงๆ แล้วมันเป็นส่วนดีเยอะ บางทีส่วนน้อยต้องก้าวข้ามไป เราจะใช้ส่วนดีของเขาช่วยเหลือคนอื่นได้เยอะ

เวลาที่เห็นสิ่งๆ ก็เหมือนดอกไม้ ความดีเป็นดอกไม้หอม เห็นแล้วทำให้ชื่นใจทำให้รู้สึกว่าอยากเห็นดอกไม้บานไปทั่วแผ่นดินในใจของคนทุกคน

จัดดอกไม้ในใจคน









นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสตศรี – สฤษติ์วงศ์

ความรู้ซ้อนอยู่ในทุกประโยคที่พูด ความรู้ที่ว่าด้วยการยกระดับทางจิตวิญญาณ ได้เล่าอย่างมีเสรีภาพในการเล่า ไม่ต้องเกรงใจใคร เล่าด้วยความหวังดีต่อระบบต่อสังคม จะพบว่าตัวเองมีการพัฒนาทางจิตวิญญาณ เป็นผลงานต่อแผนงานที่จะไปขับเคลื่อนสังคมต่อสังคม

จัดดอกไม้ในใจคุณ พัฒนาจากจิตวิญญาณ











ศ.ระพี สาคริก

ราษฎรอาวุโส/ปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญา และมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย

ทำงานทุกข์เมื่อไหร่ก็ให้มองดูตัวเอง ก็คือปัญหามันอยู่ที่ใจเราไม่ได้อยู่ที่อื่น ดับความเห็นแก่ตัวได้มันก็เห็น คนเราเห็นแก่ได้เท่าไหร่ก็จะมองออกจากตัวเอง การจะหวนกลับมามองที่ตัวเองมันน้อย ความอดทนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนโดนนิดหนึ่งก็วิ่งหนีแล้ว บางคนรู้สึกว่าท้าทายมันน่าสู้ เพราะรู้คุณค่าของตัวเองว่าถ้าเราสู้เราได้คุณค่าที่จะเอาชนะใจตนเอง เว้นแต่ว่าเราไม่กล้าสู้ คนที่เสียโอกาสเพราะตัวเองปิดตัวเอง ไม่กล้าเผชิญกับความจริงที่มีอยู่ข้างนอก เราทำงานเราก็ต้องมีปัญหา เมื่อเราเจอปัญหาเราสู้ไหม เมื่อเราสู้นั้นแหล่ะพัฒนาจิตวิญญาณ

คนเราถ้ามีความตั้งใจที่จะทำงานแล้วมันไม่มีความทุกข์หรอก มีดลับด้วยหินมันยังมีข้อจำกัด แต่ความคิดคนยิ่งลับยิ่งคม ไม่มีข้อจำกัด การทำงานต้องมีหลัก ใจเราต้องรักที่จะทำ เมื่อรักเราก็รู้คุณค่า ถ้าไม่รักเราก็มีทุกข์ขอให้ระลึกเสมอว่าเราอยู่ที่นี่ เราก็จะมีการทำงานอย่างมีจิตวิญญาณ เมื่อมีจิตวิญญาณแล้วมีความสุขได้ทั้งนั้น