หลายครั้งที่ผมเคยรอคอยความหวัง รอคอยความหวังนั้นซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่
บางครั้ง เรื่องบางอย่าง ตัวของผมเองสามารถช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังรอคอยความหวังนั้น
มีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง สมัผมอายุ 7 ขวบ ผมไปอยู่ที่ทุ่งนากับครอบครัว ผมอยากกลับบ้านเพื่อไปดูการ์ตูนโดราเอมอล ผมไม่กล้าเดินกลับบ้านคนเดียว(เพราะผมกลัวผีมาก คุณตาของผมชอบเล่าให้ผมฟังตอนเป็นเด็กบ่อยครั้ง)
แต่วันนั้นพ่อ แม่ พี่สาว และญาติพี่น้อง ทุกคนต้องลงนา เพื่อทำนาช่วยกันในช่วงเช้าหลังทานข้าวเสร็จ ผมจึงตัดสินใจเดินกลับบ้านคนเดียว โดยที่ไม่รอใครเพื่อที่จะให้ไปส่งผม และผมก็ผ่านมันมาได้
เป็นเหตุการณ์ที่ผมมีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก ที่ผมสามารถเผชิญเดินผ่านถนนสายนั้นที่ผมไม่กล้าที่จะย่างก้าวเดินผ่านมาก่อนหน้านั้นเลย แล้วผมเดินผ่านมันได้ด้วยตัวของผมเอง โดยไม่ต้องรอใครมาช่วยผม
ครั้งนั้น..ก็เป็นบทเรียนชีวิตหนึ่งของผม ที่ผมไม่เคยลืมเลือนมาจนถึงทุกวันนี้..
ผมเคยนำเหตการณ์ครั้งหนึ่งมาเล่าให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2553 โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ฟังก่อนกลับบ้านในช่วงเย็นของวันนั้น เรื่องมีอยู่ว่า..
ชายชราคนหนึ่งนับถือพระเจ้ามากๆ อยู่มาวันหนึ่งเกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านฉับพลัน ชาวบ้านต่างพากันอพยพออกจากหมู่บ้านกันอย่างกลาหล เพื่อนบ้านตะโกนให้ชายชราผู้นี้หนีน้ำท่วมไปด้วยกัน
ชายชราตะโกนแล้วก็ตอบไปว่า 'ไม่ไปหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วยข้า'
น้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงคอชายชรา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งพายเรือมาดูว่ายังมีใครติดอยู่ในหมู่บ้านหรือไม่ ก็มาเจอชายชราจึงชวนขึ้นเรือไปด้วยกัน
ชายชราก็เลยตะโกนตอบไปอีกว่า 'ข้าไม่เป็นไรหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วย'
น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นๆ จนมิดตัว บ้านเหลือเพียงหลังคาบ้าน ชายชราก็ต้องขึ้นมาอยู่บนหลังคาบ้าน
มีเฮลิคอปเตอร์ผ่านมาสำรวจดูว่ายังมีใครหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านบ้าง ก็มาเจอชายชราติดน้ำท่วมอยู่บนหลังคาเจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์ปล่อยบันไดลงมาให้ชายชรา และพูดผ่านโทรโข่ง ท่านรีบเกาะบันไดขึ้นมาเร็ว ชาวบ้านหนีออกจากหมูบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือท่านคนเดียว
ชายชราตะโกนตอบไปว่า 'ข้าไม่เป็นไรหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วยข้า' ทันทีที่ตอบเสร็จ น้ำที่เชี่ยวกราดก็พัดพาร่างของชายชราจมน้ำหายไป
เมื่อชายชราเสียชีวิต ได้ขึ้นสวรรค์ และได้พบกับพระเจ้า ชายชราก็ตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าเป็นการใหญ่ว่า 'ข้าอุตส่าห์ยึดมั่นถือในคุณงามความดี และเชื่อถือท่านอย่างเคร่งครัดตลอดมา เวลาข้าเดือดร้อนรอความช่วยเหลือช่วยเหลือจากท่าน ทำไมท่านไม่มาช่วยเหลือข้าเลย ปล่อยให้ข้าตายได้ เสียแรงที่นับถือท่านมาตลอดชีวิต'
พระเจ้าได้ดังนั้น จึงตอบกลับไปว่า 'ทำไมเราจะไม่ช่วยเล่ะเราส่งคนไปช่วย ท่านก็ไม่ไป ส่งเรือไปรับ ท่านก็ไม่ไป
เรื่องบางอย่างเราอาจจะเคยลดคุณค่าในตัวเราเองลง โดยที่เราไม่รู้
ความสามารถในตัวเรามีอยู่มากมาย แต่บางทีเราอาจจะรอคอยเพียงความหวังบางอย่าง ที่เราคิดว่ามันจะเข้ามาช่วยเราได้ บางทีก็ได้แต่เพียงรอๆ ไปจนตาย เช่นดังชายชราผู้นี้นะครับ..
ครั้งหนึ่งผมรู้สึกท้อมากๆ จนหมดพลัง หมดความหวังทุกอย่าง ผมบอกตัวเองว่า 'ตัวเราทำไมถึงไร้ค่าอย่างนี้!'พอผมได้เปิดเมลดูวันนั้น ผมได้รับข้อความหนึ่งจากเพื่อนๆ คนที่รู้กัน ผมสรุปข้อความที่เป็นกำลังใจให้ผมรู้สึกว่าตัวผมเองยังไม่หมดคุณค่า ดังนี้..
มีนักกระบวนกรท่านหนึ่งได้เริ่มกิจกรรมจัดอบรมของเขา โดยการหยิบแบงค์ 1,000 บาท ขึ้นมาในห้องที่มีผู้เข้าร่วมอบรมประมาณ 60 คน แล้วเขาก็พูดว่า 'ใครอยากได้แบงค์ 1,000 บาท นี้บ้างครับ?' ผู้เข้าร่วมรับฟังยกขึ้นเป็นจำนวนมากและเขาก็พูดต่อว่า 'ผมจะให้เงินแบงค์ 1,000 บาท นี้แก่หนึ่งในพวกท่าน แต่ครั้งแรกนี้ผมจะทำอย่างนี้!'
เขาเริ่มที่จะขยำๆ เงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า 'ใครจะยังต้องการมันอีก' ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก
'ดีครับ!' เขาตอบ 'แล้วถ้าผมทำอย่างนี้ล่ะ' และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา
แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก 'ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีกไหมครับ?' ก็ยังคงมีคนยกมืออีก
เขาก็เลยบอกกับผู้เข้าร่วมอบรมว่า.. พวกท่านได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า ไม่ว่าฉผมจะทำอะไรกับเงิน ท่านก็ยังต้องการมันอยู่ดี เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า 1,000 บาท อยู่เช่นเคย
เหมือนกับหลายๆ ครั้งในชีวิตของพวกเราที่ถูกทิ้ง ถูกเหยียบย่ำและถูกทำให้สกปรก
โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมันและสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไรที่จะเกิดขึ้น ท่านไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ คุณเป็นคนพิเศษ อย่าลืมมันตลอดไป! อย่านำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้...
ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์และคุณค่าในสิ่งๆนั้นเสมอ ของที่คุณมีค่าที่สุด อาจจะไม่มีคุณค่าอะไรเลยก็ได้สำหรับบางคนบางเหตุการณ์
แต่..ของที่คุณตัดสินมันว่าไรค่า อาจจะมีคุณค่ามากมายกับอีกหลายๆคนในห้วงเวลาหนึ่งนั้นก็เป็นไปได้ครับ...
บางครั้ง เรื่องบางอย่าง ตัวของผมเองสามารถช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังรอคอยความหวังนั้น
มีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง สมัผมอายุ 7 ขวบ ผมไปอยู่ที่ทุ่งนากับครอบครัว ผมอยากกลับบ้านเพื่อไปดูการ์ตูนโดราเอมอล ผมไม่กล้าเดินกลับบ้านคนเดียว(เพราะผมกลัวผีมาก คุณตาของผมชอบเล่าให้ผมฟังตอนเป็นเด็กบ่อยครั้ง)
แต่วันนั้นพ่อ แม่ พี่สาว และญาติพี่น้อง ทุกคนต้องลงนา เพื่อทำนาช่วยกันในช่วงเช้าหลังทานข้าวเสร็จ ผมจึงตัดสินใจเดินกลับบ้านคนเดียว โดยที่ไม่รอใครเพื่อที่จะให้ไปส่งผม และผมก็ผ่านมันมาได้
เป็นเหตุการณ์ที่ผมมีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก ที่ผมสามารถเผชิญเดินผ่านถนนสายนั้นที่ผมไม่กล้าที่จะย่างก้าวเดินผ่านมาก่อนหน้านั้นเลย แล้วผมเดินผ่านมันได้ด้วยตัวของผมเอง โดยไม่ต้องรอใครมาช่วยผม
ครั้งนั้น..ก็เป็นบทเรียนชีวิตหนึ่งของผม ที่ผมไม่เคยลืมเลือนมาจนถึงทุกวันนี้..
ผมเคยนำเหตการณ์ครั้งหนึ่งมาเล่าให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2553 โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ฟังก่อนกลับบ้านในช่วงเย็นของวันนั้น เรื่องมีอยู่ว่า..
ชายชราคนหนึ่งนับถือพระเจ้ามากๆ อยู่มาวันหนึ่งเกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านฉับพลัน ชาวบ้านต่างพากันอพยพออกจากหมู่บ้านกันอย่างกลาหล เพื่อนบ้านตะโกนให้ชายชราผู้นี้หนีน้ำท่วมไปด้วยกัน
ชายชราตะโกนแล้วก็ตอบไปว่า 'ไม่ไปหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วยข้า'
น้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงคอชายชรา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งพายเรือมาดูว่ายังมีใครติดอยู่ในหมู่บ้านหรือไม่ ก็มาเจอชายชราจึงชวนขึ้นเรือไปด้วยกัน
ชายชราก็เลยตะโกนตอบไปอีกว่า 'ข้าไม่เป็นไรหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วย'
น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นๆ จนมิดตัว บ้านเหลือเพียงหลังคาบ้าน ชายชราก็ต้องขึ้นมาอยู่บนหลังคาบ้าน
มีเฮลิคอปเตอร์ผ่านมาสำรวจดูว่ายังมีใครหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านบ้าง ก็มาเจอชายชราติดน้ำท่วมอยู่บนหลังคาเจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์ปล่อยบันไดลงมาให้ชายชรา และพูดผ่านโทรโข่ง ท่านรีบเกาะบันไดขึ้นมาเร็ว ชาวบ้านหนีออกจากหมูบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือท่านคนเดียว
ชายชราตะโกนตอบไปว่า 'ข้าไม่เป็นไรหรอก! เดี๋ยวพระเจ้าก็มาช่วยข้า' ทันทีที่ตอบเสร็จ น้ำที่เชี่ยวกราดก็พัดพาร่างของชายชราจมน้ำหายไป
เมื่อชายชราเสียชีวิต ได้ขึ้นสวรรค์ และได้พบกับพระเจ้า ชายชราก็ตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าเป็นการใหญ่ว่า 'ข้าอุตส่าห์ยึดมั่นถือในคุณงามความดี และเชื่อถือท่านอย่างเคร่งครัดตลอดมา เวลาข้าเดือดร้อนรอความช่วยเหลือช่วยเหลือจากท่าน ทำไมท่านไม่มาช่วยเหลือข้าเลย ปล่อยให้ข้าตายได้ เสียแรงที่นับถือท่านมาตลอดชีวิต'
พระเจ้าได้ดังนั้น จึงตอบกลับไปว่า 'ทำไมเราจะไม่ช่วยเล่ะเราส่งคนไปช่วย ท่านก็ไม่ไป ส่งเรือไปรับ ท่านก็ไม่ไป
สุดท้ายส่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วย ท่านก็ไม่ไปอีก แล้วท่านจะให้เราช่วยท่านอย่างไรอีก'
เรื่องบางอย่างเราอาจจะเคยลดคุณค่าในตัวเราเองลง โดยที่เราไม่รู้
ความสามารถในตัวเรามีอยู่มากมาย แต่บางทีเราอาจจะรอคอยเพียงความหวังบางอย่าง ที่เราคิดว่ามันจะเข้ามาช่วยเราได้ บางทีก็ได้แต่เพียงรอๆ ไปจนตาย เช่นดังชายชราผู้นี้นะครับ..
ครั้งหนึ่งผมรู้สึกท้อมากๆ จนหมดพลัง หมดความหวังทุกอย่าง ผมบอกตัวเองว่า 'ตัวเราทำไมถึงไร้ค่าอย่างนี้!'พอผมได้เปิดเมลดูวันนั้น ผมได้รับข้อความหนึ่งจากเพื่อนๆ คนที่รู้กัน ผมสรุปข้อความที่เป็นกำลังใจให้ผมรู้สึกว่าตัวผมเองยังไม่หมดคุณค่า ดังนี้..
มีนักกระบวนกรท่านหนึ่งได้เริ่มกิจกรรมจัดอบรมของเขา โดยการหยิบแบงค์ 1,000 บาท ขึ้นมาในห้องที่มีผู้เข้าร่วมอบรมประมาณ 60 คน แล้วเขาก็พูดว่า 'ใครอยากได้แบงค์ 1,000 บาท นี้บ้างครับ?' ผู้เข้าร่วมรับฟังยกขึ้นเป็นจำนวนมากและเขาก็พูดต่อว่า 'ผมจะให้เงินแบงค์ 1,000 บาท นี้แก่หนึ่งในพวกท่าน แต่ครั้งแรกนี้ผมจะทำอย่างนี้!'
เขาเริ่มที่จะขยำๆ เงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า 'ใครจะยังต้องการมันอีก' ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก
'ดีครับ!' เขาตอบ 'แล้วถ้าผมทำอย่างนี้ล่ะ' และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา
แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก 'ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีกไหมครับ?' ก็ยังคงมีคนยกมืออีก
เขาก็เลยบอกกับผู้เข้าร่วมอบรมว่า.. พวกท่านได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า ไม่ว่าฉผมจะทำอะไรกับเงิน ท่านก็ยังต้องการมันอยู่ดี เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า 1,000 บาท อยู่เช่นเคย
เหมือนกับหลายๆ ครั้งในชีวิตของพวกเราที่ถูกทิ้ง ถูกเหยียบย่ำและถูกทำให้สกปรก
โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมันและสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไรที่จะเกิดขึ้น ท่านไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ คุณเป็นคนพิเศษ อย่าลืมมันตลอดไป! อย่านำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้...
ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์และคุณค่าในสิ่งๆนั้นเสมอ ของที่คุณมีค่าที่สุด อาจจะไม่มีคุณค่าอะไรเลยก็ได้สำหรับบางคนบางเหตุการณ์
แต่..ของที่คุณตัดสินมันว่าไรค่า อาจจะมีคุณค่ามากมายกับอีกหลายๆคนในห้วงเวลาหนึ่งนั้นก็เป็นไปได้ครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น