บางครั้งผมเคยทดสอบการแก้ปัญหาบางอย่างด้วยการอยู่คนเดียว ทำตัวเองให้กลับคืนมาเป็นตัวเองด้วยการอยู่คนเดียว คิดคนเดียว ใคร่ครวญอะไรบางอย่างด้วยตัวเราเองเพียงคนเดียว
ผลที่ได้รับจากการอยู่คนเดียว คือ การสะสมความความกลัดกลุ้ม หมักหมมปัญหาเล็กๆน้อยๆ นานวันเข้ากลับกลายเป็นกองใหญ่เกินจะพังทะลาย ปัญหาบางอย่างกับคลี่คลาย ปัญหาใหม่บางอย่างย้อนกับเข้ามาแทนที่
แล้ววันหนึ่งผมก็ได้ค้นพบสิ่งที่มาเป็นจุดเปลี่ยนห้วงของความคิดในสภาวะนั้น ให้เรากลับมาเป็นตัวของเราเองอีกครั้ง
ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนต้องมีประโยคโดนใจหรือคติพจน์ประจำตัว หลายคนเกิดในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน หลายคนต้องได้พบเผชิญกับโอกาสที่แตกต่างกัน คนอยู่ใกล้นักปราชญ์ก็จะได้สะสมแง่คิดเชิงด้านบวก ส่วนคนที่อยู่ใกล้คนพาลก็จะได้สะสมแง่คิดเชิงด้านลบ
ผมอ่านประโยคเหล่านี้แล้ว.. ผมมีความสุข.. ผมอยู่ในสภาวะที่พึงพอใจ ตัวของผมเบา ผ่อนคลาย สบายและมีความสุข..
การแสวงหาความสุข คนที่ตามหาความสุขจะพบความสุขช้ากว่าคนที่ ไม่รอค่อยความสุข แต่เขากำลังจะสร้างความสุขให้ตัวของเขาเอง
คนที่รู้ตัวเองว่าตอนนี้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันจะมีความทุกข์ คนนั้นจะเห็นวิธีทางเดินหาความสุข
ที่สุดของคนเรา คนทุกคนต้องการความธรรมดา คนที่แสวงหาความสุข คือ คนที่กำลังทำให้ตัวเองกลับกลายมาเป็นคนธรรมดา
เจ้าสัวเศรษฐีอายุมากๆคนหนึ่ง แกซึ่งมีทรัพย์สินมากมายมั่งคั่ง มั่งมี มีความสุขกับตระกูล แล้ววันหนึ่งตระกูลนั้นลูกหลานแก่งแย่งทรัพย์สมบัติของตระกูลเพื่อมาครอบครองเพียงคนเดียว ความสามัคคีแตกแยก ลูกหลานเศรษฐีต่างก็แก่งแย่งทรัพย์สมบัติ
สุดท้ายแล้วเจ้าสัวท่านนี้ไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย เหลือเพียงแต่ความธรรมดา แต่เจ้าสัวท่านนี้ มีรอยยิ้ม มีความหวัง มีพลังใจในวันสุดท้าย ก่อนตายอย่างสงบ ณ วันป่าแห่งหนึ่ง อย่างสู่สุขติ...
ผลที่ได้รับจากการอยู่คนเดียว คือ การสะสมความความกลัดกลุ้ม หมักหมมปัญหาเล็กๆน้อยๆ นานวันเข้ากลับกลายเป็นกองใหญ่เกินจะพังทะลาย ปัญหาบางอย่างกับคลี่คลาย ปัญหาใหม่บางอย่างย้อนกับเข้ามาแทนที่
แล้ววันหนึ่งผมก็ได้ค้นพบสิ่งที่มาเป็นจุดเปลี่ยนห้วงของความคิดในสภาวะนั้น ให้เรากลับมาเป็นตัวของเราเองอีกครั้ง
ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนต้องมีประโยคโดนใจหรือคติพจน์ประจำตัว หลายคนเกิดในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน หลายคนต้องได้พบเผชิญกับโอกาสที่แตกต่างกัน คนอยู่ใกล้นักปราชญ์ก็จะได้สะสมแง่คิดเชิงด้านบวก ส่วนคนที่อยู่ใกล้คนพาลก็จะได้สะสมแง่คิดเชิงด้านลบ
ผมอ่านประโยคเหล่านี้แล้ว.. ผมมีความสุข.. ผมอยู่ในสภาวะที่พึงพอใจ ตัวของผมเบา ผ่อนคลาย สบายและมีความสุข..
'ณ ขณะนี้ฉันกำลังมีความสุขกับการทำงาน'
'ความสุข คือ การได้พบว่ายังมีเหตุผลอีกม ากมาย ให้เราลืมตาตื่นขึ้นทุกวัน แทนที่จะนอนนิ่งปิดตามืดอยู่อย่างนั้น'
'รุ้งที่สวยงามประกอบไปด้วยสีที่แตกต่างกันหลายๆสี เรียนรู้ที่จะชื่นชมกับความแตกต่างของคนเพื่อเห็นความงดงามของการมีชีวิตอยู่ ในโลกนี้ร่วมกัน'
'ชีวิตเราสั้นเกินกว่า จะหมดเปลืองไปกับความกังวล'
'หนึ่งวินาทีที่ผ่านไปก็คือ อดีตไปแล้ว ทำทุกนาที ณ ตอนนี้ ให้เป็นปัจจุบันที่ดีที่สุด'
'การมอบความปรารถนาดีต่อกัน ล้วนเป็นสิ่งที่งดงามประเสริฐสุด
การให้ด้วยใจ ให้แล้วเราอิ่มใจ มีความสุข ไม่เป็นทุกข์ คือ ที่สุดของการให้
การทำดี เพราะทำไปแล้วรู้ว่ามันดี..นั่นล่ะคือ การทำความดี..
การมอบความรัก เป็นสิ่งที่ดีงดงามเสมอ..ไม่ว่าจะมอบให้กับอะไร สิ่งไหนก็ตาม..'
การให้ด้วยใจ ให้แล้วเราอิ่มใจ มีความสุข ไม่เป็นทุกข์ คือ ที่สุดของการให้
การทำดี เพราะทำไปแล้วรู้ว่ามันดี..นั่นล่ะคือ การทำความดี..
การมอบความรัก เป็นสิ่งที่ดีงดงามเสมอ..ไม่ว่าจะมอบให้กับอะไร สิ่งไหนก็ตาม..'
การแสวงหาความสุข คนที่ตามหาความสุขจะพบความสุขช้ากว่าคนที่ ไม่รอค่อยความสุข แต่เขากำลังจะสร้างความสุขให้ตัวของเขาเอง
คนที่รู้ตัวเองว่าตอนนี้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันจะมีความทุกข์ คนนั้นจะเห็นวิธีทางเดินหาความสุข
ที่สุดของคนเรา คนทุกคนต้องการความธรรมดา คนที่แสวงหาความสุข คือ คนที่กำลังทำให้ตัวเองกลับกลายมาเป็นคนธรรมดา
เจ้าสัวเศรษฐีอายุมากๆคนหนึ่ง แกซึ่งมีทรัพย์สินมากมายมั่งคั่ง มั่งมี มีความสุขกับตระกูล แล้ววันหนึ่งตระกูลนั้นลูกหลานแก่งแย่งทรัพย์สมบัติของตระกูลเพื่อมาครอบครองเพียงคนเดียว ความสามัคคีแตกแยก ลูกหลานเศรษฐีต่างก็แก่งแย่งทรัพย์สมบัติ
เจ้าสัวหมดรอยยิ้ม หมดความหวัง หมดแรงใจที่จะเห็นหน้าลูกหลายในตระกูล
จึงตัดสินใจให้ทนายประจำตระกูล นำทรัพย์สินส่วนใหญ่(ส่วนน้อยนิด ให้ทนายมอบให้ลูกๆ เท่าๆกัน) ที่เหลือส่วนใหญ่ เจ้าสัวนำทรัพย์สินไปมอบบริจาคทั้งหมด ตามองค์กร ตามมูลนิธิต่างๆ สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล ฯลฯ..สุดท้ายแล้วเจ้าสัวท่านนี้ไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย เหลือเพียงแต่ความธรรมดา แต่เจ้าสัวท่านนี้ มีรอยยิ้ม มีความหวัง มีพลังใจในวันสุดท้าย ก่อนตายอย่างสงบ ณ วันป่าแห่งหนึ่ง อย่างสู่สุขติ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น