มีคนมากมายที่มี ความฝัน
แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถสร้าง ความฝัน
ให้เป็น ความจริง ขึ้นมาได้
เราเลือกที่จะอยู่ด้วยความเชื่อที่ผิดทุกอย่างและรอให้ฟ้าประทานความสำเร็จมา ให้เราหรือเราเลือกที่จะเดินหน้าทำความฝันของเราให้มันเป็นจริงขึ้นมาด้วยมือของเราเอง
คำนำสำนักพิมพ์
ธ.ค. 52
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักที่จะมีความฝัน ความฝันที่ตัวเองเชื่อและศรัทธาในความฝันของตัวผมเอง ผมประทับใจหนังสือเล่มนี้มาก เพราะผมเปิดไปเจอประโยคนี้ 'เรื่องราวของมนุษย์ที่มีความรักและต้องการสร้างความฝันให้เป็นความจริง ความฝันจุดเล็กๆ ที่สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มีคนมากมายที่มีความฝัน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำให้เป็นความจริง! เข้าใจและเข้าถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์และความฝัน'
บางคนกำลังคิด บางคนกำลังฝัน แต่บางคนกำลังเริ่มลงมือทำ
หนังสือเล่มนี้ได้แบ่งออกเป็นตอนๆ และในแต่ละตอนก็จะมีบทเรียนต่างๆ
เขียนฝากไว้ให้ผู้อ่านได้อ่านเก็บมาคิดตาม
ปรับใช้ในความฝันของตัวเราเองครับ
1. จุดเริ่มต้นของความฝันเล็กๆ
2. ความฝันของเด็กน้อย
บทเรียนที่ 1 : มนุษย์ทุกคนมีความฝัน แต่มีมนุษย์น้อยคนนักที่สามารถสร้างความฝันให้เป็นความจริงได้บทเรียน ที่ 2 : มนุษย์บางคนล้มเลิกความฝันง่ายๆ บางคนล้มเลิกตั้งแต่มีความฝัน คนที่ล้มเลิกตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางตามความฝันมักจะไม่พบเจอกับความฝันอีก เพราะคนล้มเหลวมักจะล้มเลิก และคนที่ล้มเลิกก็มักจะล้มเหลว
บทเรียน ที่ 3 : มนุษย์มากมายเกิดมาพร้อมความฝัน แต่มีมนุษย์น้อยคนที่สามารถสร้างความฝันให้กลายเป็นความจริง การสร้างความฝันให้เป็นความจริงนั้น มีวิธีการในรูปแบบของมันเอง คนบางคนไม่เข้าใจถึงวิธีการนั้น ก็ไม่สามารถสร้างฝันให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ แม้บางคนจะใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม คนบางคนเข้าใจผิดคิดว่าจะต้องใช้เวลามากจึงจะทำสำเร็จ แท้จริงมันไม่เกี่ยวกับการใช้เวลาเร็วหรือช้า มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เวลานั้นเป็นหรือไม่เท่านั้นเอง คนที่สร้างฝันสำเร็จเป็นจริงขึ้นมาได้นั้น เขามักจะทำเวลาเป็นปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง
บทเรียนที่ 4 : มนุษย์ที่ยังเป็นเด็กมักจะมีความฝันเล็กๆ มากมาย เมื่อพบเห็นสิ่งใดสวยงาม ถูกใจ ก็มักจะเก็บนำมาเป็นนำมาเป็นความฝันของตน และเมื่อเด็กเหล่านั้นโตขึ้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่สามารถพัฒนาความฝันเหล่านั้นให้เติบใหญ่ และเป็นความจริงขึ้นมาได้ นั่นเป็นเพราะเด็กหลายคนไม่กล้าที่จะฝันต่อไป เพราะความผิดหวัง เด็กหลายคนโตขึ้นมาแล้วก็ลืมมันไปว่าความฝันของตัวเองคืออะไร เด็กหลายคนถูกใส่ความคิดลบมาจากพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว เพราะผู้ปกครองมักบอกอยู่เสมอว่า "ลูกทำไม่ได้หรอก", "ลูกอย่าทำเลย", "มันยากเกินไป สำหรับเรา", "เราเกิดมาจน เราต้องเป็นอย่างนั้น" และความคิดลบเหล่านี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวที่สมบูรณ์ที่สุด
3. การเดินทางของหนูน้อย
บทเรียนที่ 5 : มนุษย์จะประสบความสำเร็จได้ต้องเริ่มจากความคิดก่อน
แล้วเมื่อการเริ่มต้นจากความคิดที่ถูกต้องแล้วจะทำให้เราเดินไม่หลงทาง มนุษย์มากมายยังไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง มนุษย์มากมายล้มเหลว เพราะเริ่มต้นคิดผิดๆ
มนูษย์มากมายล้มเหลว เพราะไม่รู้ว่าวิธีคิดที่ถูกต้องนั้นทำอย่างไร
มนุษย์มากมายล้มเหลวเพราะเริ่มด้วยการคิดผิดและการทำผิด
นอกจากการเริ่มต้นจากความคิดที่ถูกต้องแล้ว
การกระทำที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องใน
การดำเนินชีวิตบทเรียนที่ 6 : สิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์ คือ การตัดสินใจ, สิ่งที่ง่ายที่สุดของมนุษย์ ก็คือ การตัดสินใจ
บทเรียนที่ 7 : การตัดสินใจที่ถูกต้องนั้นสามารถฝึกฝนได้ โดยการเริ่มต้นฝึกจากการตัดสินใจจากเรื่องเล็กๆ ก่อน และการตัดสินใจที่ดีที่สุดจะต้องเริ่มต้นจากความคิดที่ถูกต้องที่สุดก่อน
บทเรียนที่ 8 : ความคิดที่ถูกต้องที่สุดก็มักจะเกิดจากการสะสมประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย มีทั้งดีบ้าง และไม่ดีบ้าง ปะปนกันไป และเมื่อสะสมประสบการณ์มากเพียงพอ มนุษย์บางคนก็จะเกิดการเรียนรู้ถึงสัจธรรมที่แท้จริง
บทเรียนที่ 9 : สัจ คือ ความจริง, ธรรม คือ ธรรมชาติ, สัจธรรม คือ ความจริงของธรรมชาติ ที่มนุษย์ควรจะเข้าใจมัน เพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นธรรมชาติตลอดชีวิต, มนุษย์คนใดที่เข้าใจถึงความจริงของธรรมชาติมากที่สุด มนุษย์คนนั้นจะกลายเป็นมนุษย์คนที่มีความสุขที่สุดในโลก
บทเรียนที่ 10 : สัจธรรมที่แท้จริง มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มองโลกด้วยใจเท่านั้น
บทเรียนที่ 11 : มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะมองโลกด้วยตา ดังนั้นจึงมีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถค้นพบสัจธรรมที่แท้จริง
บทเรียนที่ 12 : มนุษย์ทุกคนสามารถค้นพบสัจธรรมที่แท้จริง ทั้งๆ ที่มันอยู่รอบๆ ตัวเรามาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เรายังไม่เข้าใจมันเท่านั้นเอง
บทเรียนที่ 13 : มนุษย์มากมายต้องการมีความสุข แต่ความสุขนั้นเกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่ค้นพบสัจธรรมที่แท้จริงเท่านั้น
4. อาจารย์โจดัม แห่งสำนักดรีมคัมทรู
บทเรียนที่ 14 : คนล้มเลิกมักจะหาเหตุผลมากมายมาสนับสนุนความล้มเหลว และพยายามทำให้ตัวเองเชื่ออย่างนั้น พวกเขาจะปลูกฝังมันลงไปในจิตใต้สำนึกกับเหตุผลที่พวกเขาทำมันไม่ได้ แล้วพวกเขากก็สามารถทำสำเร็จในการเริ่มต้นของความคิดที่ล้มเหลว
เมื่อพวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ในตัวเองได้ในครั้งแรก
พวกเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งถัดมาได้อย่างดี
โดยไม่ตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย เมื่อพ่ายแพ้บ่อยๆ เข้า
พวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความคิดลบ
นานวันเข้าพวกเขาก็จะกลายเป็นคนแพร่เชื้อโรคความคิดลบให้กับทุกคนที่อยู่ใกล้บทเรียนที่ 15 : คนที่ทำได้มีคนเพียง 1 คน จากทั้งหมด 1,000,000 คน คนคนนั้นจะต้องมีความมุ่งมั่นเหนือคนทั้งหมด เพราะความมุ่งมั่นธรรมดาๆ ก็เพียงความมุ่งมั่นทั่วๆ ไปเท่านั้น ถ้าใครต้องการความสำเร็จที่เหนือคนอื่นๆ ก็จะต้องมุ่งมั่นให้มากกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด
บทเรียนที่ 16 : มีคนเพียง 1 คน จากทั้งหมด 1,000,000 คน ที่สามารถสร้างความฝันให้เป็นความจริงได้ ส่วนคนที่เหลืออีก 999,999 คน ไม่สามารถสร้างความฝันให้เป็นความจริงได้ พวกเขาจะเสียชีวิตไปพร้อมกับความฝันของพวกเขาที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจ
บทเรียนที่ 17 : ความสำเร็จไม่มีขาย ถ้ามนุษย์คนใดต้องการความสำเร็จ มนุษย์คนนั้นต้องใช้ความพยายาม ความรู้ ความสามารถ หาวิธีการสร้างความสำเร็จของตนให้เจอ
บทเรียนที่ 18 : ความสำเร็จของมนุษย์แต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ความสำเร็จล้วนเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลเป็นของส่วนตัว เป็นของใครของมันไม่ซ้ำกันและเลียนแบบกันไม่ได้
5. บันไดขั้นแรงของความสำเร็จ
บทเรียนที่ 19 :
การที่มนุษย์ต้องการสร้างความฝันของตัวเองให้เป็นความจริงขึ้นมาทุกคนจะต้อง
ผ่านบันไดขั้นแรกเสมอ เราจะต้องปีนบันได้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุดในชีวิตให้ได้
เพราะถ้าเราคิดว่าเส้นทางนั้น คือ
จุดหมายที่เราฝันไว้เราจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว
6. เป้าหมายชีวิต
บทเรียนที่ 20 :
สำหรับคนที่มุ่งมั่นแล้วความฝันกับเป้าหมายทั้งสองสิ่งนี้ไม่แตกต่างกัน
เพราะเขาจะลงมือทำทุกอย่างให้ความฝันเป็นจริงขึ้นมา
แต่สำหรับบางคนแล้วความฝันมักจะกลายเป็นแค่ความฝัน
มันเป็นสิ่งที่พวกเขานึกขึ้นมาเท่านั้น พวกเขาเพียงแต่นึกขึ้นมาหรือนึกต้องการจะมีเหมือนอย่างที่คนอื่นเขามีกัน
แต่พวกเขาไม่เคยลงมือทำเลยสักครั้งเดียว
นั่นคือ..สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนมุ่งมั่นกับคนเพ้อฝัน สิ่งแตกต่างนั้น
คือ การลงมือทำ และผลลัพธ์ของคนมุ่งมั่นที่ลงมือทำ คือ ความสำเร็จ, ผลลัพธ์ของคนเพ้อฝันที่ไม่เคยลงมือทำ คือ ความล้มเหลวบทเรียนที่ 21 : วิธีการของความสำเร็จ = หนึ่งมีเป้าหมาย, สองหาวิธีการ, สามเริ่มลงมือทำ เมื่อลงมือทำแล้วอาจจะเกิดได้ทั้งการบรรลุเป้าหมายและการล้มเหลวหรือผิดหวัง คนที่ประสบความสำเร็จมักจะหาวิธีการใหม่ๆ ทุกครั้งที่ผิดพลาด คนที่ประสบความล้มเหลวมักจะล้มเลิกทุกครั้งที่เจออุปสรรค คนที่ประสบความสำเร็จมักจะเรียกความผิดพลาดว่า 'บทเรียน' คนที่ล้มเหลวมักจะเรียกความผิดพลาดว่า 'ความล้มเหลว'
บทเรียนที่ 22 : ทฤษฎีของปาฏิหาริย์ การลงมือทำจะมาก่อนปาฏิหาริย์เสมอ ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเรารู้วิธีทำที่ถูกต้องเท่านั้น
บทเรียนที่ 22 : มนุษย์คนใดที่มีความฝันและมีความเชื่ออย่างแรงกล้า กระทั่งความเชื่อนั้นเปลี่ยนเป็นศรัทธา นั่นเป็นสิ่งแรกที่เริ่มเข้าใกล้การสร้างฝันให้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว เพราะกุญแจดอกแรกที่จะไขประตูแห่งความสำเร็จนั้น คือ การศรัทธาในตัวเอง มันเป็นการเชื่อว่าตนเอง "ทำได้", "ทำได้แน่นอน" ไม่ว่าพบเจออุปสรรคใดๆ ในชีวิตก็ตาม
บทเรียนที่ 23 : ความคิดที่ถูกต้อง ถ้ามนุษย์คนใดมีความต้องการที่จะมีสุขภาพแข็งแรงให้คิดว่า "เรามีสุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่เราจะไม่ป่วย" ถ้ามนุษย์คนใดมีความต้องที่จะมีกำลังใจ ให้เราคิดว่า "เราทำได้ ไม่ใช่เราจะไม่เหนื่อย" ความคิดที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลให้ มันเป็นแม่เหล็กดึงดูดสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างนั้นเข้ามาหาเราด้วย มันจะดึงความเจ็บไข้ ความทุกข์ และความเหน็ดเหนื่อยเข้ามาหาเรา โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ
บทเรียนที่ 24 : บันได 5 ขั้น ของเป้าหมายชีวิต = ขั้นที่หนึ่งการจินตนาการอย่างชัดเจน, ขั้นที่สองกำหนดวันเวลาให้แน่นอน, ขั้นที่สามวางแผนวิธีการจากเวลาปัจจุบันให้ถึงเวลาที่กำหนดไว้, ขั้นที่สี่การตอกย้ำทุกวันทุกเวลา, ขั้นที่ห้าการลงมือทำทันที ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ถ้าสามารถทำตามขั้นตอนทั้งห้าข้อได้อย่างถูกวิธี ถ้าใครละเลยหรือทำผิดวิธีการข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ ต้องการเอาไว้หรืออาจจะใช้เวลานานเกินไปกว่าจะถึงจุดหมาย
บทเรียนที่ 25-29 : บันได 5 ขั้น ของเป้าหมายชีวิต
บทเรียนที่ 30 : การคิดบวกสิ่งที่ทำให้คนมีความสุข และมันสร้างความแตกต่างกับคนมีความทุกข์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บทเรียนที่ 31 : การคิดบวกสำหรับคนที่ใช้พลังนี้ได้อย่างถูกต้อง มันจะทำให้เกิดพลังดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาอย่างมหาศาล การคิดบวกที่ถูกวิธีจะทำให้สามารถดึงสิ่งที่ดีเข้ามาหาตัวเราได้ บางครั้งอาจจะไม่มีเหตุผลก็ได้ การคิดบวกมันมีพลังมากมาย พอที่จะเปลี่ยนคนจากคนมีความทุกข์ไปมีความสุขได้
บทเรียนที่ 32 : ทัศนคติที่ต่างกันจะสร้างความสำเร็จที่ต่างกัน ทัศนคติที่ดีจะสร้างการดำเนินชีวิตที่มีความสุข ทัศนคติที่ไม่ดีจะสร้างการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีทัศนคติที่เหมือนกัน คนที่ล้มเหลวก็มักจะมักจะมีทัศนคติที่เหมือนกัน คนที่ประสบความสำเร็จและคนที่ล้มเหลว มักจะมีทัศนคติที่แตกต่างกัน.
7. บันไดขั้นที่ห้า
เมื่อใดที่เริ่ม ลงมือทำ
เมื่อนั้นก็เริ่ม เข้าใกล้ ความสำเร็จ แล้ว
ความสำเร็จ
คือ
คนที่ ทำทุกอย่าง ที่ตนคิด
คนล้มเหลว
คือ
คนที่คิดทุกอย่าง แต่ ไม่เคยทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น