15 ธ.ค. 2556

กำลังใจนิดๆ ยามครูท้อ

ทุกครั้งที่ครูหมดกำลังใจหรือผิดหวังในความตั้งใจของตนที่ตั้งใจสอนเด็กๆ แต่เกิดอาการท้อถอยและคิดเอาตัวเองไปเปรียบเปรยกับใครๆ สุดท้านแล้วเรามองตนเองเมื่อยามหมดคนเปรียบเปรย ดังเรื่องนี้ที่ผมเคยเล่าให้เด็กๆ ฟังมาหลายชั้นที่สอน
    กบฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมา ถึงวัดเพื่อฉันเช้า...
กบน้อยนึกในใจอยากเกิดเป็นพระ เพราะเป็นพระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน เมื่อพระฉันเสร็จก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย..
ตอนนี้..กบเปลี่ยนใจอยากเกิดเป็นเด็กวัดแล้ว เพราะสบายกว่าพระ มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้สบายกว่าเยอะเลย เมื่อเด็กวัดกินเสร็จก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกินแล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกันล้างจาน..
ถึงตอนนี้..กบเปลี่ยนใจอยากเกิดเป็นหมาวัดแล้ว เพราะไม่ต้องล้างจานเหมือนเด็กวัด สบายกว่า พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด คอยเห่าคนแปลกหน้า ฝูงแมลงวันก็บินมาตอมและกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด..
ถึงตอนนี้..กบเปลี่ยนใจ(อีกแล้ว) อยากเกิดเป็นแมลงวัน เพราะสบายที่สุดไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวันเข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ ..
ถึงตอนนี้.. กบฟุ้งซ่านจึงบรรลุธรรมฉับพลันคิดได้ว่า..
เอ้อ!! เป็นตัวของเราเองนี่แหละดีที่สุดเลย(The best to be yourself)

หลายหนที่เคยหมดกำลังใจ หันกลับมามองเรื่องเล่าที่เคยสอนแง่คิดกับเด็กๆ ก็ยิ่งรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กลับมาย้อนดูเรื่องที่เราสอนคนอื่น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น