...คนมีศาสนากับคนไม่มีศาสนา ไม่มีอะไรเเตกต่างกันเลยครับ ยกเว้นเสียแต่ เจตนาเเละกรรม ที่เขาสร้างขึ้นมาครับ ถ้าเป็นคนไม่มีศาสนา เเต่มีเจตนาดี เป็นคนดี ไม่ทำชั่ว รู้จักความละอายใจ ยับยั้งชั่งใจ ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน ไม่อิจฉาริษยา ไม่คอยเเกล้งคนอื่น เห็นคนอื่นเดือดร้อน ก็สงสาร อยากช่วยเหลือ ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ขยันทำงาน ถ้าคนเช่นนี้ แสดงว่า คนๆ นั้นยึดถือความดีเป็นที่ตั้ง เรียกว่าคนคนนั้นนับถือ "ศาสนาเเห่งความดี"..
.
.
...เเต่ในทางตรงกันข้ามครับ ถ้าเป็นคนที่มีศาสนาในทางกฏหมายระบุอย่างเด่นชัด เเต่ในทางปฏิบัติ กลับเป็นคนที่มีเเต่เจตนา ไม่ดี ต่อผู้อื่น อิจฉาริษยาผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์ ดื่มเหล้า เคล้าการพนัน โกหก ทำชั่ว โดย ไม่เคยรู้จัก ละอายใจ ในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำไป พวกนี้ ถึงมีศาสนา ก็เหมือนไม่มี เพราะ ศาสนา ในสายตาของคนเหล่านี้ เป็นเพียงรูปธรรม เป็นเพียงตัวหนังสือ ที่พิมพ์อยู่บนบัตร เเต่ในใจเขา (หาเคยได้มีสิ่งนั้นไม่)..
ปล. คนๆ นั้นจะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนาต้องดูที่กรรมครับ เพราะกรรมจะเป็นตัวที่ส่อให้เห็น "เจตนา" ที่ถูกซ่อนอยู่ภายในกรรมนั้นครับ..
ขอขอบคุณ "ศาสนา"
ครูป้อม คนล่าฝัน
ร่างกายก็เหมือนหุ่น จิตสั่งให้ไปซ้ายก็ไปให้ไปขวาก็ไป กว่าจะเห็นตัวเองก็เมื่อใกล้จะจบชีวิต ถ้าเข้าใจหลักธรรมคำสอนที่องค์พระศาสดาได้ตรัส จะใช้ชีวิตได้สมกับที่ได้มีชีวิต ผู้อ่านชื่นชมในทรรศนะของผู้เขียนนะคะ ศึกษาด้วยกันต่อไปนะคะคนล่าฝัน
ตอบลบถ้าใครได้มาอ่านหรือศึกษาตากจุด วันเวลา และโอกาส เช่นผมตอนนี้
ตอบลบก็จะอาจจะคิด จะรู้สึก จะอยากทำ เช่นผมครูป้อมในตอนนี้ครับ..
ขอบคุรนะครับ..