7 พ.ย. 2552

คนละเรื่อง (โลก) เดียวกัน


ในมุมหนึ่งของประเทศไทย มีเด็กสาวคนหนึ่ง อายุเพียง 16 ปี นามสมมติ “ลูกตาล”
เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นปริ่มว่าจะขาดใจติดมุมฝาผนังห้องนอน สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่มีชีวิตอยู่โดยปราศจากวิญญาณ
โดยภูมิหลัง เธอเป็นเด็กดี พูดจาฉะฉาน มีกิริยามารยาทเรียบร้อย มีระบบระเบียบในชีวิต
จัดว่าเป็นบุคคลประเภทสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) คนหนึ่ง มีผลการเรียนในระดับดีมากติดอันดับแนวหน้าของโรงเรียน มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับเธอในวันประกาศผลสอบ ซึ่งผลปรากฏว่าเธอได้เกรดเฉลี่ยรวมลดลง 0.05 จุด
อาจจะดูเล็กน้อยหากประเมินตามหลักทศนิยม แต่สำหรับเธอแล้ว มันมีค่ามากเหลือเกิน เธอต้องหลุดจากอันดับหนึ่งของโรงเรียน และมันทำให้เธอได้รับเกียรติบัตรผลการเรียนเฉลี่ยรวมอันดับสองของโรงเรียน เธอคิดว่าเป็นความผิดพลาดของเธอที่ไม่รอบคอบและตรวจทานข้อสอบให้ดี เกิดความรู้สึกเจ็บปวด จนต้องหลั่งน้ำตาด้วยอาการเศร้าโศก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ปิดตัวเงียบ
และไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเธอรู้สึกว่าตนเอง “พ่ายแพ้” เธอทรมานเหลือเกินกับความรู้สึกดังกล่าว พ่อกับแม่ของเธอ
พยายามให้กำลังใจ และพาเธอไปพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดเธอให้หายกลับมาเป็นลูกตาลคนเดิม





ในอีกมุมหนึ่งของประเทศไทย มีเด็กชายคนหนึ่ง อายุเพียง 16 ปี นามสมมติ “ต้นตาล”
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงเรียน ระหว่างอ่านประกาศผลสอบ เขากระโดดลอยตัวอย่างลิงโลด เหมือนโลกทั้งโลกเป็นของเขา
โดยภูมิหลัง เขามีข้อดีข้อเดียวคือมองโลกในแง่ดี นอกจากนั้นขอไม่กล่าวถึง ต้นตาลเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบทำกิจกรรมเป็นชีวิตจิตใจ
มีผลการเรียนที่หลากหลายมากตั้งแต่ A จนถึง F เลยทีเดียว ชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายติดอันดับท้ายๆของโรงเรียน มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับเขาในวันประกาศผลสอบ ซึ่งผลปรากฏว่าเขาได้เกรดเฉลี่ยรวมเพิ่มขึ้น 0.05 จุด
อาจจะดูเล็กน้อยหากประเมินตามหลักทศนิยม แต่สำหรับเขาแล้ว มันมีค่ามากเหลือเกิน เขาได้หลุดจากอันดับสุดท้ายของโรงเรียน และมันทำให้เขาได้รอดพ้นจากการเรียนซ้ำชั้น เขาคิดว่ามันเกิดจากความพยายามในโค้งสุดท้าย ที่ได้เข้าไปพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาและส่งงานจนเกือบครบ เกิดความรู้สึกโล่งใจจนแทบอยากจะร้องไห้ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความปิติ
เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมีชีวิตอยู่ตอนนี้ เขารู้สึกว่าได้รับ “ชัยชนะ” และเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เขากล้าลงสมัคร
เป็นสมาชิกสภานักเรียน ในปีการศึกษาต่อไป


หากพบความผิดหวัง
ที่ประดังเพราะหวังผิด
มองโลกให้ดีสักนิด
ทำชีวิตให้รื่นรมย์

มัวแต่คาดหวังไป
อาจต้องพ่ายทุกข์ระทม
เชิดหน้าชื่น แต่อกตรม
วางอารมณ์รับความจริง

ไม่มีใครในโลก
ไร้ซึ่งโศกอย่าประวิง
ทางสายกลางแหล่งพักพิง
สอนสรรพสิ่ง คือ “สัจธรรม”

“สุนทรอุ๊”

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอชื่นชม สุนทรอุ๊ ครับ

    ตอบลบ
  2. ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง...สาธุ

    ตอบลบ
  3. พระท่านว่า....
    ให้มองโลกอย่างที่มันเป็น อย่าปรุงแต่ง
    แต่......
    ความเป็นจริงจะมีใครทำได้สักกี่คน
    หากจิตไม่นิ่ง
    สมองและใจก็ปรุงแต่งไปเรื่อย

    ตอบลบ